Leigh Syndrome | อาการ-สาเหตุ-รักษา-ป้องกัน
Leigh Syndrome หรือ โรคลีห์ คือ โรคทางระบบประสาทชนิดนึงที่พบได้น้อย เป็นความผิดปกติที่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลางทำให้มีปัญหาในการดูดกลืนอาหาร พบได้บ่อยในเด็กอายุระหว่าง 3 เดือน – 2 ปี ไม่ค่อยเกิดขึ้นในเด็กโตหรือผู้ใหญ่
Leigh Syndrome | อาการ
- มีปัญหาในการดูดน้ำนมหรือการกลืนอาหาร
- ควบคุมศรีษะไม่ได้ มีปัญหาในการขยับศรีษะ
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้ อาเจียน
- หงุดหงิด ขี้โมโห โกรธง่าย
- ร้องไห้บ่อย ร้องไห้ตลอดเวลา
- ชัก
- อ่อนแอ ไม่มีพลัง
- กล้ามเนื้อน้อย ไม่แข็งแรง
- การหายใจผิดปกติ หายใจสั้น หายใจตื้น
- การทำงานของไตมีปัญหา
Leigh Syndrome | สาเหตุ
โรคลีห์เกิดจากการผิดปกติหรือการกลายพันธุ์ของพันธุกรรมในไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) ส่งผลทำให้กระบวนการสร้างพลังงานในเซลล์มีปัญหา ส่งผลต่อทำให้การทำงานของสมองมีปัญหา สุดท้ายเลยทำให้การสั่งงานมากล้ามเนื้อมีปัญหา เป็นโรคในกลุ่มความบกพร่องทางไมโทคอนเดรีย (Mitochondria Diseases)
- Alper’s Disease
- Myopathy
- Diabete
- Kearns-Sayre Syndrome
- MELAS Syndrome
- Leber’s Hereditary Optic Neuropathy
- Pearson Syndrome
- MERRF Syndrome
- Friedreich’s Ataxia
- Wilson’s Disease
- Barth Syndrome
- Chronic Progressive External Ophthalmoplegia
Leigh Syndrome | รักษา
โรคลีห์ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เพราะเกิดจากความผิดปกติที่มาจากร่างกาย ทำได้เพียงรักษาแบบประคับประคองและตามอาการ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินอาการและความรุนแรงเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะแต่ละบุคคลไป แต่โดยทั่วไปจะรักษา ดังนี้
- ให้ Vitamin B1 เพื่อชะลอการพัฒนาความรุนแรงของโรค
- ลดภาวะความเป็นกรดของร่างกายด้วย Sodium Bicarbornate หรือ Sodium Citrate
- อาจจะพิจารณาการให้อาหารทางสายยาง ถ้ามีปัญหาในการกลืน
- อาจจะพิจารณาการใช้เครื่องช่วยหายใจ ถ้ามีปัญหาในการหายใจด้วยตัวเอง
- ดูแลปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ไมโทคอนเดรียทำงานสมบูรณ์เท่าที่สามารถทำได้
Leigh Syndrome | ป้องกัน
โรคที่เกิดจากความบกพร่องทางร่างกายโดยกำเนิดไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด ทำได้เพียงลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ด้วยการดูแลตัวเองในทุกวัน ทำในสิ่งที่ร่างกายชอบบ้าง ไม่ใช่จะทำแต่สิ่งที่เราชอบ ปัจจัยที่เราสามารถควบคุมได้ มีดังนี้
- ตรวจพันธุกรรมของพ่อแม่ก่อนมีลูก เพื่อประเมินความเสี่ยงว่าลูกที่เกิดมาจะมีความเสี่ยงขนาดไหน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย
- หลีกเลี่ยงน้ำตาล เลือกกินคาร์โบไฮเดรตที่มีค่า Glycemic Index และ Glycemic Load ที่ต่ำ
- รับประทานไฟเบอร์ทุกวัน เน้นผักเป็นหลัก ผลไม้เป็นรอง
- รับประทานโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละวัน เน้นจากพืชเป็นหลัก จากสัตว์เป็นรอง
- รักษาสมดุลกรดไขมัน Omega-3 ให้พอดีกับกรดไขมัน Omega-6
- หลีกเลี่ยงอาหารดัดแปลงเชิงอุตสาหกรรม
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- ลูกชิ้น
- ไส้กรอก
- หมูยอ
- แฮม
- แหนม
- เบคอน
- อาหารไมโครเวฟ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอและหลากหลาย
- บริหารหัวใจ ปอด และการไหลเวียนของเหลวในร่างกาย
- บริหารความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
- บริหารความยืดหยุ่นและข้อต่อ
- บริหารอารมณ์ให้นิ่งสงบ
- อุจจาระทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 รอบ
- กลางคืนนอนหลับให้มีคุณภาพ กลางวันตื่นตัวใช้ชีวิตประจำวัน
- หลีกเลี่ยงสารพิษเข้าร่างกาย
- อาหาร | สารเติมแต่ง สารกันดูด สารพิษโลหะหนัก สารพลาสติก ยากำจัดศัตรูพืช
- อากาศ | ฝุ่น PM 2.5
- น้ำ | สะอาดและมีแร่ธาตุ
(Genetic VS Epigenetic) ถ้าเราได้รับมรดกประจำตระกูลมาจากพ่อแม่ (Genetic) เราไม่จำเป็นต้องเอามรดกที่ได้รับออกมาใช้ก็ได้ (Epigenetic) เราสามารถเลือกที่จะส่งต่อมรดกประจำตระกูลให้ลูกหลานเหลนต่อไปโดยไม่นำออกมาใช้เลยสักบาท
อาหารเสริมสำหรับ Mitochondria
Mitochondria Support | อาหารเสริมไมโทคอนเดรียเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Pyrroloquinoline Quinone (PQQ) = 10mg
- Coenzyme Q10 = 100mg
- Benfotiamine (Vitamin B1) = 50mg
- Pyridoxamine (Vitamin B6) = 50mg
- R-ALA = 25mg
- L-Taurine = 200mg
- NADH = 10mg
Res-V-eratrol Plus | อาหารเสริมเรสเวอราทรอลเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Refined Rice Bran Oil = 770mg
- Niacinamide = 10mg
- Grape Skin Extract = 125mg
- Pine Bark Extract = 30mg
- Grape Seed Extract = 30mg
AstaSure คือ อาหารเสริมแอสต้าแซนทินที่ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
บริษัทแรกในโลกที่สามารถผลิตแอสต้าแซนทีนจากธรรมชาติ มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 30 ปี มาจากการเพาะเลี้ยงสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส ในพื้นที่ปิดที่มีความเงียบสงบเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ได้สารแอสต้าแซนทีนที่มีประโยชน์สูงสุดและสะอาดปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของน้ำมันที่มีประโยชน์กับร่างกายอีก 8 ชนิด คือ
- น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed Oil)
- น้ำมันโบราจ (Borage Oil)
- น้ำมันงาขี้ม้อน (Perilla Oil)
- น้ำมันอโวคาโด (Avocado Oil)
- น้ำมันจมูกข้าวสาลี (Wheat Germ Oil)
- น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)
- น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil)
- น้ำมันอีฟนิ่งพรีมโรส (Evening Primrose Oil)