ปลูกผม VS ยาปลูกผม VS แชมพูปลูกผม

ปลูกผม VS ยาปลูกผม VS แชมพูปลูกผม | แต่ละอย่างคืออะไร? มีข้อดีอะไร? มีข้อเสียอะไร? อะไรดีที่สุด?

ปัญหาเรื่องเส้นผมพบได้มากในผู้ชายทั่วโลกและในประเทศไทย พบว่า 1 ใน 3 ของผู้ชายไทยมีปัญหาหัวล้าน (Baldness) และ 1 ใน 10 ของผู้หญิงไทยก็มีปัญหาหัวล้าน โดยสาเหตุเกิดมาจากกรรมพันธุ์ถึง 90%

ตอนวัยรุ่นก็ผมดกดำ-หนา-แข็งแรง แต่พออายุเพิ่มมากขึ้น เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน ผมเริ่มร่วงมากขึ้นเรื่อยๆ หนังศรีษะมัน ผมเส้นเล็กลง หน้าผากเริ่มเว้า กลางหัวเริ่มผมบางจนเห็นหนังศรีษะ สุดท้ายต้องตัดผมสั้นและโกนผม กลายเป็นคนหัวล้านโดยสมบูรณ์

ผ่าตัดปลูกผม

ปลูกผมถาวร Hair Transplantation คือ การผ่าตัดเพื่อย้ายรากผมจากบริเวณที่มีความแข็งแรงและตอบสนองกับฮอร์โมนดีเอชที (DHT Hormone) ต่ำ นั่นคือบริเวณด้านหลังศรีษะหรือข้างหู มาปลูกลงในบริเวณที่หัวล้าน-ผมบาง-หัวเถิก นั่นคือบริเวณหน้าผากหรือกลางกระหม่อม

เทคนิคในการปลูกผมถาวร Hair Transplantation Techniques ในปัจจุบันมีทั้งหมด 2 วิธีหลัก โดยแยกจากลักษณะของการผ่าตัดถอนรากผมจากบริเวณที่มีความแข็งแรง คือ

FUT

  • Follicular Unit Transplantation
  • ผ่าตัดเอาหนังศรีษะออกมาพร้อมรากผม
  • มีรอยแผลผ่าตัดยาวบริเวณหลังศรีษะ
  • ใช้เวลาผ่าตัดน้อยกว่า
  • ราคาต่ำ

FUE

  • Follicular Unit Extraction
  • เจาะเอาเฉพาะรากผมออกมา
  • มีรอยแผลผ่าตัดเป็นรูเล็กบริเวณหลังศรีษะ
  • ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า
  • ราคาสูง

หลังจากได้รากผมจากบริเวณที่มีความแข็งแรงแล้ว แพทย์ก็จะทำการปลูกรากผมที่ถอนออกมาใส่ไปในบริเวณที่หัวล้าน-ผมบาง-หัวเถิก โดยปัจจุบันมีอยู่ 2 วิธีหลัก คือ

  • เจาะรูก่อนแล้วปักรากผม
  • เจาะรูและปักรากผมไปพร้อมกันเลย หรือ DHI (Direct Hair Implantation) คือ การใช้หัวปักชนิดพิเศษที่สามารถสอดรากผมเข้าไปในหัวปัก ทำให้สามารถเจาะรูและปักรากผมลงไปได้ในทีเดียว

กราฟผม (Grafts) คือ กอผมหรือเนื้อเยื่อของผมที่จะทำการผ่าตัดถอนมาจากบริเวณด้านหลังศรีษะเพื่อนำไปปลูกในบริเวณที่หัวล้าน-ผมบาง-หัวเถิก โดยปกติ 1 กราฟผม จะมีเส้นผมอยู่ประมาณ 1-4 เส้น

ปลูกผมจะใช้ระยะเวลาประมาณ 12-18 เดือน ผมถึงจะขึ้นเต็มที่ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับปัจจัยแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็น

  • อายุตอนที่ปลูกผม
  • ความรุนแรงของหัวล้าน-ผมบาง-หัวเถิก
  • ความแข็งแรงของเซลล์รากผมที่ถอนออกมา
  • การรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่ช่วยยับยั้งฮอร์โมนดีเอชที (DHT Blocker)
  • การทายาหรือสระผมที่กระตุ้นทำให้ผมงอกขึ้นมาใหม่
  • การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วยเลเซอร์ LLLT (Low Level Laser Therapy)
  • การกระตุ้นเซลล์รากผมด้วยสเต็มเซลล์ PRP (Platelet Rich Plasma)
  • การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
    • รับประทานอาหารที่ร่างกายต้องการครบในแต่ละวัน
    • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
    • การนอนหลับพักผ่อนให้มีคุณภาพ
    • การสูบบุหรี่
    • การดื่มแอลกอฮอล์

ปลูกผม ราคาเท่าไหร่ขึ้นกับจำนวนกราฟผมที่ต้องถอนรากผมออกมา บางคนก็อาจจะ 1,000 กราฟ 2,000 กราฟ 3,000 กราฟ 4,000 กราฟ หรือ 5,000 กราฟ ขึ้นกับความรุนแรงของปัญหาหัวล้าน-ผมบาง-หัวเถิก โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินจากการเห็นตัวจริงหรือภาพถ่าย

ข้อดี

  • เห็นผลความเปลี่ยนแปลงเร็ว
  • ช่วยเพิ่มความมั่นใจ
  • ส่วนมากได้ผลในระยะยาว
  • ผมที่ขึ้นมาใหม่ดูเป็นธรรมชาติ
  • มักไม่ค่อยมีผลข้างเคียง

ข้อเสีย

  • ราคาสูง
  • ต้องการเวลาในการฟื้นตัวของแผล
  • มีรอยแผลผ่าตัด
  • มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ
  • ปลูกผมได้ตามจำนวนรากผมที่แข็งแรง

ยาปลูกผม

ยาปลูกผม อาหารเสริมปลูกผม คือ ยาหรือสารอาหารจากธรรมชาติที่นำมารับประทานแล้วมีผลกระตุ้นทำให้รากผมแข็งแรง เพิ่มโอกาสในการงอกใหม่ และรักษาเส้นผมให้มีความแข็งแรง ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องกับสาเหตุที่สามารถควบคุมได้ คือ การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนดีเอชที (DHT Hormone) และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โดยยาปลูกผมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันก็จะมีอยู่ 3 อย่าง คือ

โดยอาจจะมีส่วนผสมเพิ่มเติมที่ช่วยบำรุงเส้นผม ไม่ว่าจะเป็น

  • Biotin
  • Zinc
  • Vitamin B
  • Vitamin C
  • Vitamin D
ปลูกผม VS ยาปลูกผม VS แชมพูปลูกผม
ผลของ DHT Hormone กับปัญหาเส้นผม

แบบกิน

ข้อดี

  • รักษาที่สาเหตุของหัวล้าน-ผมบาง-หัวเถิก
  • ออกฤทธิ์ต่อเส้นผมทุกเส้นบนศรีษะ
  • มักเห็นผลได้ดีตรงกลางกระหม่อม
  • ราคาต่ำ
  • ลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโต

ข้อเสีย

  • บางคนอาจจะน้ำเชื้อลดลง
  • ต้องใช้เวลา 6-12 เดือน ถึงจะเริ่มเห็นผล
  • มักเห็นผลไม่ค่อยดีบริเวณหน้าผาก
  • ต้องรับประทานทุกวันสม่ำเสมอ
  • ไม่ค่อยเห็นผลกับหัวล้านระยะรุนแรง

แบบทา

ข้อดี

  • รักษาที่สาเหตุของหัวล้าน-ผมบาง-หัวเถิก
  • ออกฤทธิ์ต่อเส้นผมทุกเส้นบนศรีษะ
  • มักเห็นผลได้ดีตรงกลางกระหม่อม
  • ราคาต่ำ
  • เห็นผลในระยะยาว

ข้อเสีย

  • บางคนมีอาการคัน ผื่นแดง
  • ต้องใช้เวลา 6-12 เดือน ถึงจะเริ่มเห็นผล
  • มักเห็นผลไม่ค่อยดีบริเวณหน้าผาก
  • ต้องทาทุกวันสม่ำเสมอ
  • ไม่ค่อยเห็นผลกับหัวล้านระยะรุนแรง
ปลูกผม VS ยาปลูกผม VS แชมพูปลูกผม
ผ่าตัดปลูกผม VS ยาปลูกผม VS แชมพูปลูกผม

แชมพูปลูกผม

แชมพูปลูกผม คือ แชมพูที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อทำความสะอาดเส้นผม-หนังศรีษะ และยังกระตุ้นการงอกขึ้นใหม่ของเส้นผม ทำให้เจริญเติบโตและแข็งแรง ลดความมันบนหนังศรีษะ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศรีษะ มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงรากผมและเส้นผม

ข้อดี

  • สามารถใช้ได้ทุกวัน
  • ราคาต่ำ

ข้อเสีย

  • ไม่ค่อยเห็นผลถ้าใช้เพียงอย่างเดียว
  • ได้ผลดีกับการป้องกันการหลุดร่วง

สรุป

การป้องกันดีกว่าการรักษาในทุกเรื่องรวมถึงปัญหาหัวล้าน-ผมบาง-หัวเถิก และวิธีการดูแลตัวเองแบบองค์รวมก็ดีกว่าการเน้นเพียงด้านใดด้านนึง ดูแลตัวเองจากภายในและผสานจากภายนอกคือดีที่สุด

ระยะเริ่มแรก | รับประทานยาปลูกผม ทายาปลูกผม แชมพูปลูกผม

ระยะปานกลาง | ปลูกผม หรือรับประทานยาปลูกผม ทายาปลูกผม แชมพูปลูกผม

ระยะรุนแรง | ปลูกผมและรับประทานยาปลูกผม ทายาปลูกผม แชมพูปลูกผม

Wellness Hub – Hair Born

Hair Born | อาหารเสริมยาปลูกผมเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้

  1. Finasteride = 1mg
  2. Minoxidil = 1mg
  3. Zinc Amino Acid Complex (Zn 20%) = 25mg
Wellness Hub – Re Growth Hair Lotion

Re Growth Hair Lotion | อาหารเสริมยาทาปลูกผมเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้

  1. Redensyl® = 5%
  2. Minoxidil = 5%
  3. Finasteride = 0.5%
  4. Estradiol = 0.0025%
  5. Zinc Extract from yeast = 1%
  6. Beta-Glucan Extract from yeast = 1%
  7. Cell Culture Media = 30%
Wellness Hub – Biotin Plus

Biotin Plus | อาหารเสริมไบโอตินเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้

  1. Zinc Amino Acid Complex (Zn 20%) = 75mg
  2. Selenium Chelate 1% = 7mg
  3. Calcium-D-Pantothenate (Vitamin B5) = 6mg
  4. D-Biotin = 0.15mg

Similar Posts