Alpha Lipoic Acid – ALA – กรดอัลฟ่าไลโปอิก | ยี่ห้อไหนดี ?

Alpha Lipoic Acid ยี่ห้อไหนดี ? | อาหารเสริมกรดอัลฟ่าไลโปอิกมีวิธีการเลือกซื้อยังไง? ควรดูอะไรบ้าง? วิธีรับประทานให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรทานตอนไหน? วิธีการเก็บรักษายังไงให้เสื่อมช้าที่สุด?

Alpha Lipoic Acid – ALA – กรดอัลฟ่าไลโปอิก | คือ? ประโยชน์? ผลข้างเคียง?

Alpha Lipoic Acid | วิธีเลือกซื้อ

1. ดูว่าจะเอาเข้าร่างกายทางไหน?

แบบฉีด

  • ผ่านหลอดเลือดดำ
  • ออกฤทธิ์ทันที
  • ออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย
  • ราคาสูง
  • ไม่สามารถฉีดได้ทุกวัน

แบบกิน

  • ผ่านระบบย่อยอาหาร
  • ใช้เวลาดูดซึม 30-60 นาที
  • ออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย
  • ราคาต่ำ
  • สามารถกินได้ทุกวัน

แบบทา

  • ผ่านผิวหนัง
  • ใช้เวลาดูดซึม 30 นาที
  • ออกฤทธิ์บริเวณที่ทา
  • ราคาต่ำ
  • สามารถทาได้ทุกวัน

Astaxanthin ควรกินคู่กับอะไร? ไม่ควรกินคู่กับอะไร?

2. ดูว่าเป็น ALA รูปแบบไหน?

ALA หรือ Alpha Lipoic Acid หรือ กรดอัลฟ่าไลโปอิก มีอยู่ 2 รูปแบบ คือ S-Form และ R-Form ซึ่งแต่ละโครงสร้างมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน คุณภาพก็ต่างกัน ประสิทธิภาพก็ต่างกัน การดูดซึมก็ต่างกัน และราคาก็ต่างกัน

Alpha Lipoic Acid มีกี่รูปแบบ? | R-LIPOIC ACID vs S-LIPOIC ACID

3. ดูว่าปริมาณต่อหน่วยเท่าไหร่?

ALA หรือ Alpha Lipoic Acid หรือ กรดอัลฟ่าไลโปอิก ไม่ได้เป็นสารอาหารที่จำเป็นที่ร่างกายขาดไม่ได้ ร่างกายไม่จำเป็นต้องรับทุกวัน การรับประทานจากอาหารธรรมชาติหรืออาหารเสริมเพื่อบำรุงสุขภาพโดยรวมเท่านั้น ไม่มีปริมาณแนะนำที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน โดยมีรับประทาน 100-1,200 มิลลิกรัม ต่อวัน ขึ้นกับเป้าหมายว่ารับประทานเพื่ออะไร เพื่อบำรุงร่างกายป้องกันโรคหรือเพื่อรักษาบรรเทาอาการของโรค

Tocopherol VS Tocotrienol

4. ดูส่วนผสมอื่น?

ปัจจุบันความรู้วิทยาศาสตร์สุขภาพ (Anti-Aging and Regenerative Medicine) พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนาไปอย่างมาก ทำให้มีการใส่สารต้านอนุมูลอิสระอื่นที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย เช่น

  • Vitamin D
  • Coenzyme Q10
  • Pyrroloquinoline Quinone
  • Vitamin B
  • Zinc

VITAMIN D3 vs VITAMIN D2

5. ดูบรรจุภัณฑ์ว่าเป็นแบบไหน?

แบบขวด | เก็บรักษาคุณภาพได้ดีระดับนึง ทันทีที่เปิดฝาครั้งแรก ทุกเม็ดในขวดจะเริ่มเสื่อม แต่ราคาต่ำ

แบบแผง | เก็บรักษาคุณภาพได้ดีที่สุด ทุกเม็ดจะถูกเก็บแยกกัน ไม่เสื่อมไปตามกัน แต่ราคาสูง

Zinc – ซิ้งค์ – สังกะสี | พบมากในอาหาร? อาการเมื่อขาด? อาการเมื่อเกิน?

กรดอัลฟ่าไลโปอิก - Alpha Lipoic Acid | ยี่ห้อไหนดี ?
Alpha Lipoic Acid – ALA – กรดอัลฟ่าไลโปอิก | ยี่ห้อไหนดี ?

Alpha Lipoic Acid | วิธีรับประทาน

โดยปกติแล้วร่างกายสามารถสร้างกรดอัลฟ่าไลโปอิก หรือ ALA หรือ Alpha Lipoic Acid ได้เองอยู่แล้ว เพียงแต่ปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้การรับประทานเสริมจากภายนอกเข้าไปจะช่วยทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างพลังงานของเซลล์และปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ สามารถรับประทานต่อเนื่องได้ทุกวัน (ถ้ายี่ห้อนั้นไม่มีสารพิษโลหะหนัก สารปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม) รับประทานตอนไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเย็น หรือก่อนนอน แต่ถ้าดีที่สุดควรเป็นตอนเช้า เพราะช่วยทำให้กระบวนการสร้างพลังงานของเซลล์มีประสิทธิภาพ และคอยต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งมักจะมีมากในช่วงเวลากลางวัน โดยจะรับประทานพร้อมอาหารหรือตอนท้องว่างก็ได้เพราะละลายได้ทั้งในน้ำและไขมัน

Alpha Lipoic Acid – ALA – กรดอัลฟ่าไลโปอิก | กินตอนไหน? กินวันละเท่าไหร่?

Alpha Lipoic Acid | วิธีเก็บรักษา

ความร้อน อากาศ ความชื้น” เป็นตัวแปรที่ทำให้ทุกอย่างเสื่อมสภาพเร็ว รวมถึง Alpha Lipoic Acid ด้วย

  • แบบขวด | ปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังเปิดรับประทานและเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา
  • แบบแผง | ใส่กล่องทึบแสงและเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา

Coenzyme Q10 / โคเอ็นไซม์ คิวเท็น | คืออะไร?

อาหารเสริม ALA เกรดการแพทย์

Wellness Hub – ALA Plus

ALA Plus Vitamin-D | อาหารเสริมกรดอัลฟ่าไลโปอิกเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ

  1. R-Lipoic Acid = 50mg
  2. Vitamin D3 = 1,000IU
Wellness Hub – Good Gut

Good Gut คือ อาหารเสริมใยอาหารประเภทละลายน้ำ (Water Soluble Dietary Fiber) ชนิดพาร์เชียลลี ไฮโดรไลซ์ กัวร์กัม (PHGG : Partially Hydrolyze Guar Gum) ที่สกัดมาจากเมล็ดกัวร์ (Guar Bean) ประเทศญี่ปุ่น ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านนี้มายาวนานกว่า 35 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่ามาจากธรรมชาติ ปราศจากพืชดัดแปลงพันธุกรรม การสังเคราะห์ และปลอดภัยจากสารพิษต่างๆ

ได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและด้านอาหาร ดังนี้

  • FDA | องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
  • Low – FODMAP | อาหารย่อยง่าย ไม่ท้องอืด ไม่ท้องผูก ไม่ท้องเฟ้อ ไม่ท้องเสีย ไม่ปวดท้อง
  • GMO Free | ไม่มีพืชดัดแปลงพันธุกรรม
  • Allergen Free | ไม่ทำให้เกิดการแพ้
  • VEGAN | มาตรฐานอาหารเจ – มังสวิรัติ – วีแกน
  • HALAL | มาตรฐานอาหารอิสลาม
  • KOSHER | มาตรฐานอาหารยิว

มีงานวิจัยเฉพาะของ PHGG ทั้งในหลอดทดลอง ในสิ่งมีชีวิต และในมนุษย์ ว่ามีคุณประโยชน์ต่างๆ ดังนี้

  1. มีส่วนช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
  2. มีส่วนช่วยทำให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรง
  3. มีส่วนช่วยป้องกันโรคอ้วน
  4. มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องผูก
  5. มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องเสีย
  6. มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้แปรปรวน (IBS: Irritable Bowel Sysdrome)
  7. มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD: Inflammatory Bowel Disease)
  8. มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
  9. มีส่วนช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
  10. มีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ
  11. มีส่วนช่วยเพิ่มกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) ในลำไส้
  12. มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด
  13. มีส่วนช่วยลดค่าดัชนีน้ำตาล (GI: Glycemic Index)
  14. มีส่วนช่วยลดความโหยหลังจากมื้ออาหาร
  15. มีส่วนช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
  16. มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C: Hemoglobin A1C)

ละลายน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดื่มวันละ 1 ซอง

Similar Posts