Calcium L-Threonate แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต | ดูดซึมดีที่สุดแต่ไม่ใช่ทุกอย่าง
Calcium L-Threonate หรือ แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต หรือ แคลเซียมข้าวโพด คือ แคลเซียมรูปแบบที่ถูกยอมรับในปัจจุบันว่ามีความสามารถในการดูดซึมดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นทุกอย่างของการสร้างกระดูกและฟัน เป็นเพียงแค่วัตถุดิบที่ดีอย่างนึงเท่านั้น ยังมีวัตถุดิบอื่นๆ และปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการสร้างกระดูก
ทุกเรื่องเกี่ยวกับ แคลเซียม (Calcium) ที่คนทั่วไปควรรู้
Calcium L-Threonate | คืออะไร?
แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต คือ รูปแบบนึงของแคลเซียมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรักษาภาวะโรคกระดูกพรุน จึงมีคุณสมบัติเด่นคือสามารถแตกตัวและดูดซึมได้ดีที่สุดในบรรดาแคลเซียมในรูปแบบต่างๆ นอกจากนั้นแล้วยังมีกรดแอล-ทรีโอนิก (L-Threonic Acid) ซึ่งเป็นรูปแบบนึงของวิตามินซี (Vitamin-C) ที่เป็นสารสำคัญในการสร้างคอลลาเจนในเนื้อกระดูก ทำให้ในระยะหลังๆ เริ่มเป็นที่นิยมในท้องตลาด ไม่ว่าจะเพื่อการรักษาหรือเพื่อการป้องกัน
เป็นแคลเซียมอินทรีย์ที่สกัดมาจากธรรมชาติ คือ ข้าวโพด ทำให้เป็นธรรมชาติและปลอดภัย มีโมเลกุลเล็ก ละลายน้ำได้ดี ไม่ตกตะกอนเป็นนิ่วในไต และไม่ทำให้ท้องผูก
โรคกระดูกพรุน | อาการ-สาเหตุ-รักษา-ป้องกัน
Calcium L-Threonate | เทียบกับรูปแบบอื่น
แคลเซียม คือ แร่ธาตุที่จะไม่อยู่โดดเดี่ยว มักจะมีสารอื่นๆ มาอยู่ร่วมด้วยเสมอ ซึ่งมีผลต่อทั้งปริมาณ การแตกตัว การดูดซึม และการกระจายตัวไปในส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย ซึ่งมีหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็น
- แคลเซียม คาร์บอเนต (Calcium Carbonate)
- แคลเซียม ฟอสเฟต (Calcium Phosphate)
- แคลเซียม แลคเตต (Calcium Lactate)
- แคลเซียม แอสคอร์เบต (Calcium Ascorbate)
- แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต (Calcium L Threonate)
- แคลเซียม ซิเตรต (Calcium Citrate)
- แคลเซียม ซิเตรต มาเลต (Calcium Citrate Malate)
- แคลเซียม กลูโคเนต (Calcium Gluconate)
แต่ผมจะเลือกเฉพาะรูปแบบของแคลเซียมเด่นๆ และหาง่ายในท้องตลาดมาเปรียบเทียบให้เห็น ดังนี้
กระดูกหัก | ควรกินอะไร ห้ามกินอะไร รักษากี่เดือน
แคลเซียม คาร์บอเนต | เป็นรูปแบบของแคลเซียมที่มีมากที่สุดในท้องตลาด สกัดมาจากหินปูน มีสัดส่วนแคลเซียมสูงถึง 40% ควรกินพร้อมมื้ออาหารเพราะจะทำให้แตกตัวได้ดีที่สุด นอกจากนั้นแล้วยังต้องการวิตามินดี (Vitamin-D) เพื่อเป็นสารร่วมในการดูดซึมที่ลำไส้เล็ก
สุดท้ายร่างกายจะได้รับแคลเซียมเข้าไปในกระแสเลือด 10% จากที่กินเข้าไป
แคลเซียม ซิเตรต | เป็นรูปแบบของแคลเซียมที่มีน้อยลงมาในท้องตลาด เกิดจากการสังเคราะห์ขึ้นมา มีสัดส่วนแคลเซียม 21% ต้องกินพร้อมมื้ออาหารเท่านั้นเพราะจำเป็นต้องอาศัยน้ำย่อยในการทำให้แตกตัวในกระเพาะอาหาร นอกจากนั้นแล้วไม่จำเป็นต้องมีวิตามินดี (Vitamin-D) เพื่อทำให้ดูดซึมที่ลำไส้เล็ก
สุดท้ายร่างกายจะได้รับแคลเซียมเข้าไปในกระแสเลือด 50% จากที่กินเข้าไป
แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต | เป็นรูปแบบของแคลเซียมที่มีน้อยที่สุดในท้องตลาด สกัดมาจากข้าวโพด มีสัดส่วนแคลเซียมประมาณ 15-20% ไม่จำเป็นต้องกินพร้อมมื้ออาหาร สามารถกินตอนไหนก็ได้ เพราะแตกตัวดีที่สุด นอกจากนั้นแล้วไม่จำเป็นต้องมีวิตามินดี (Vitamin-D) เพื่อทำให้ดูดซึมที่ลำไส้เล็ก
สุดท้ายร่างกายจะได้รับแคลเซียมเข้าไปในกระแสเลือด 95% จากที่กินเข้าไป
Calcium L-Threonate | อยู่ผิดที่มีปัญหา
ร่างกายต้องการแร่ธาตุแคลเซียมในทุกๆ วันก็จริง แร่ธาตุแคลเซียมสำคัญและจำเป็นสำหรับร่างกายก็จริง แต่ถ้าแคลเซียมเข้าไปในร่างกายแล้วไปอยู่ผิดที่แทนที่จะกลายเป็นผลดีกลับกลายเป็นผลเสีย
การเดินทางของแคลเซียมซึ่งได้รับจากภายนอกร่างกายจนเข้าไปในร่างกาย มีดังนี้
- ได้รับจากอาหารตามธรรมชาติหรืออาหารเสริม
- กลืนเข้าปาก
- เข้าไปแตกตัวที่กระเพาะอาหาร
- ดูดซึมเข้าร่างกายที่ลำไส้เล็ก
- เข้าสู่ร่างกายผ่านกระแสเลือด
- แทบจะทั้งหมดควรเข้าไปเก็บที่กระดูกและฟัน มีเหลือเล็กน้อยอยู่ในกระแสเลือดเพื่อเอาไว้ใช้งาน
แคลเซียมถึงแม้จะสำคัญและจำเป็นสำหรับร่างกาย แต่ถ้าไปอยู่ผิดที่ก็จะกลายเป็นโทษทันที เราต้องการให้แคลเซียมแทบจะทั้งหมดไปอยู่ในกระดูกและฟัน (99%) และแคลเซียมอีกนิดหน่อยไปอยู่ในกระแสเลือด (1%) แต่เราไม่ต้องการให้แคลเซียมไปเกาะที่ผนังของหลอดเลือดเพราะจะทำให้หลอดเลือดแข็งตัว เปรียบเหมือนสายยางที่ตากแดดจนแข็ง-กรอบ พร้อมที่จะปริแตกได้ตลอดเวลา
การตรวจหาแคลเซียมหรือหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Calcium Score) คือ การตรวจปริมาณแคลเซียมที่ผนังของหลอดเลือดหัวใจ โดยใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (CT Scan) ใช้เวลาตรวจน้อย และให้ความแม่นยำสูง
การตรวจหาแคลเซียมหรือหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ จึงเป็นการดูปริมาณแคลเซียมที่เกาะภายในผนังหลอดเลือดแดง เพื่อใช้บอกแนวโน้มของโอกาสในการที่จะเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ว่ามีมากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตสูง
แคลเซียม ยี่ห้อไหนดี | วิธีเลือกซื้อและวิธีกิน
Calcium L-Threonate | ปัจจัยในการสร้างกระดูก
แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต คือ รูปแบบของแคลเซียมที่ดูดซึมดีที่สุดก็จริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของการดูแลสุขภาพร่างกาย เราต้องพยายามทำให้แคลเซียมที่ดูดซึมดีที่สุดแล้วเข้าไปเก็บในกระดูกและฟัน พยายามรักษากระดูกและฟันให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา
แคลเซียม กินตอนไหน? กินวันละเท่าไหร่?
อะไรบ้าง…ที่ทำลายกระดูก
- น้ำอัดลม กาแฟ ชา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ | น้ำอัดลม-กาแฟ-ชา-เหล้า-เบียร์-ไวน์ เครื่องดื่มทั้งหมดเหล่านี้จะค่อยๆ ย่อยสลายกระดูกให้บางลง
- น้ำรีเวอร์สออสโมซิส | น้ำรีเวอร์สออสโมซิส (RO: Reverse Osmosis) คือ น้ำที่สะอาดเกินไป ไม่มีแร่ธาตุอะไรหลงเหลืออยู่แล้ว ไม่ต่างอะไรกับน้ำกลั่น ซึ่งทุกคนก็รู้ดีว่าน้ำกลั่นไม่สามารถเอามาดื่มได้ เอาไปใช้เติมแบตเตอรี่รถยนต์ได้เท่านั้น น้ำรีเวอร์สออสโมซิสก็เหมือนกัน ถ้าดื่มเข้าไปจะค่อยๆ สลายกระดูกออกมา ทำให้กระดูกบางลงทีละนิดๆ
- อาหารรสเค็มสูง | เกลือโซเดียม (Sodium) ที่อยู่ในอาหารรสเค็มสูง จะเข้าไปกร่อนแคลเซียมในกระดูกทำให้กระดูกค่อยๆ บางลง
- เครียดมากเกินไป | ความเครียดเชิงลบ ความเครียดที่มากเกินไป จะเข้าไปย่อยสลายกระดูกออกมาทีละนิดๆ
อะไรบ้าง…ที่บำรุงกระดูก
- อาหารหลักครบตามที่ร่างกายต้องการทุกวัน | อาหารหลัก 7 หมู่ (คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ น้ำ โพรไบโอติค) คือ สิ่งที่ร่างกายต้องการทุกวันเพื่อเอาไปเป็นวัตถุดิบในการสร้างเซลล์ใหม่
- แคลเซียม | แคลเซียม คือ แร่ธาตุหลักของกระดูก ร่างกายต้องการได้รับทุกวัน
- แมกนีเซียม | แมกนีเซียม คือ แร่ธาตุที่จะช่วยพาแคลเซียมให้เข้าไปที่กระดูก ลำพังแคลเซียมอย่างเดียวจะเข้าไปกระดูกลำบาก ต้องอาศัยแร่ธาตุอื่นร่วมด้วย
- วิตามินดี | วิตามินดีช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในกระเพาะอาหาร
- โบรอน | แร่ธาตุโบรอน สำคัญและจำเป็นที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก
- วิตามินซี | วิตามินซี คือ ตัวแปรร่วมนึงที่ช่วยทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนในกระดูก
- นอนหลับให้มีคุณภาพ | นอกเหนือจากโภชนาการที่ดีแล้วการนอนหลับที่ดีก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่จะทำให้ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์เก่าที่มีปัญหาได้ดี
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ | การใช้งานร่างกายอย่างสม่ำเสมอเป็นการกระตุ้นทำให้กระดูกแข็งแรง
อาหารเสริมแคลเซียมอย่างดี
BeCal คือ อาหารเสริมแคลเซียมที่ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต (Calcium L Threonate) คือ รูปแบบของแคลเซียมที่สกัดมาจากข้าวโพด ทำให้สามารถดูดซึมได้ดีกว่าแคลเซียมแบบทั่วๆ ไป มากถึง 9 เท่า นอกจากนั้นแล้วยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยทำให้แคลเซียมเข้าไปที่กระดูกและฟัน ดังนี้
- แมกนีเซียม (Magnesium) | ช่วยพาแคลเซียมเข้ากระดูกและฟัน ช่วยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย-ลดตะคริว
- วิตามินดีสาม (Vitamin D-3) | ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในกระเพาะอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงในการหกล้มของผู้สูงอายุ
- วิตามินเคสอง (Vitamin K-2) | ช่วยพาแคลเซียมที่เกาะหลอดเลือดเข้าสู่กระดูก ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
- วิตามินซี (Vitamin C) | ช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจน ช่วยยับยั้งการสลายของกระดูก
- แมงกานีส (Manganese) | ช่วยทำให้กระดูกพัฒนาและแข็งแรง
- วิตามินบี (Vitamin B) | ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดกระดูกพรุน
- โบรอน (Boron) | ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน
สามารถทานเวลาไหนก็ได้ เพราะไม่อึดท้อง ไม่ท้องผูก ไม่จำเป็นต้องใช้กรดในกระเพาะอาหาร