Astaxanthin แอสต้าแซนทีน แอสต้าแซนธิน | แรงกว่า วิตามินซี 6,000 เท่า
Astaxanthin หรือ แอสต้าแซนทิน หรือ แอสต้าแซนธิน หรือ แอสต้าแซนทีน คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ แล้วพบว่าแข็งแรงกว่า…
- วิตามินซี (Vitamin C) มากถึง 6,000 เท่า
- เรสเวอราทรอล (Resveratrol) มากถึง 3,000 เท่า
- โคเอ็นไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10) มากถึง 800 เท่า
- คาเทชิน (Catechin) มากถึง 560 เท่า
- วิตามินอี (Vitamin E) มากถึง 500 เท่า
- เบต้า แคโรทีน (Beta Carotene) มากถึง 11 เท่า
- ลูทีน (Lutein) มากถึง 2.6 เท่า
- ไลโคปีน (Lycopene) มากถึง 1.6 เท่า
จนถูกขนานนามว่าเป็น The King of Antioxidants
Astaxanthin ยี่ห้อไหนดี | วิธีเลือกซื้อและวิธีกิน
ประวัติการค้นพบ
ปี 1938 Richard Kuhn นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้ค้นพบสารแอสต้าแซนทีนระหว่างการศึกษาว่าทำไมกุ้งล็อบสเตอร์ถึงมีสีส้มแดง เลยตั้งชื่อว่า Asta (มาจาก Astacus gammarus ซึ่งเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของกุ้งล็อบสเตอร์) + Xanthin (มาจาก Xanthophyll ซึ่งเป็นชื่อตระกูลของสารแอสต้าแซนทีนที่อยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์)
ปี 1987 องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US-FDA) ได้อนุมัติให้สามารถใช้แอสต้าแซนทีนในอาหารของคน ยา เครื่องสำอาง สีผสมอาหาร และเครื่องมือแพทย์
ปี 2019 หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป (EFSA) ได้กำหนดปริมาณที่ร่างกายคนสามารถรับแอสต้าแซนทีนได้อยู่ที่ 0.2 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
สามารถพบแอสต้าแซนทีนได้ตามธรรมชาติและมีความเข้มข้นในแต่ละอย่าง ดังนี้
- แซลมอน ~5 ppm
- แพลงตอน ~60 ppm
- เคย ~120 ppm
- กุ้งทะเลน้ำลึก ~1,200 ppm
- ยีสต์พลัฟเฟีย ~10,000 ppm
- สาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส ~40,000 ppm
พบมากที่สุดในสาหร่ายทะเลน้ำลึกชื่อว่า ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (Haematococcus pluvialis)
Astaxanthin กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่
Astaxanthin ประโยชน์
เมื่อร่างกายได้รับ Astaxanthin ร่างกายก็จะได้รับการปกป้องจากสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระ เปรียบเทียบเหมือนกับการเคลือบแก้วรถยนต์อย่างดี ทำให้สีรถยนต์ได้รับการปกป้องอย่างดี เลยมีผลต่อร่างกายในด้านต่างๆ ดังนี้
ด้านผิว
เพิ่มระดับกลูตาไธโอน แก้ผิวแห้ง ลดรอยหลุม ลดริ้วรอยที่หน้า ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น ลดการทำลายคอลลาเจน หน้ากระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น
ด้านดวงตา
ช่วยให้มองเห็นชัดขึ้นในเวลากลางคืน ลดอาการตาล้าจากการดูมือถือ-แท๊บเลท-คอมพิวเตอร์-โน๊ตบุ๊ค มีส่วนช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ลดอนุมูลอิสระจากแสงที่ทำร้ายดวงตา
ด้านผม
ลดอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์รากผม ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม
ด้านตับ
ปกป้องตับจากอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบจากไขมันเกาะตับ ช่วยในการขจัดสารพิษ ลดความรุนแรงของสารพิษต่อเซลล์ตับ
ด้านหลอดเลือด
ลดการอักเสบของหลอดเลือด ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้หลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
ด้านกระดูกและข้อ
ลดอนุมูลอิสระที่ทำลายผิวข้อต่อ ลดการอักเสบของข้อ
ด้านสิว
ลดการอักเสบของสิว ลดรอยดำและแผลเป็นจากการเกิดสิว ลดรอยหลุมสิวจากการอักเสบที่มากเกินไป
ด้านกล้ามเนื้อ
เพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ ลดอนุมูลอิสระจากการออกกำลังกาย ลดการบาดเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย ป้องกันกล้ามเนื้อลีบในผู้สูงอายุ ลดกรดแลคติกทำให้ลดความเมื่อยล้า ช่วยฟื้นฟูสภาพของกล้ามเนื้อ
ด้านสมอง
ลดอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์สมองอันเป็นเหตุทำให้สมองเสื่อม ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น มีส่วนช่วยเพิ่มความจำ ลดอนุมูลอิสระจากความเครียด ลดอาการเมื่อยล้าและอ่อนเพลีย
Astaxanthin ควรกินคู่กับอะไร? ไม่ควรกินคู่กับอะไร?
ราชาสารต้านอนุมูลอิสระ
Astaxanthin มีค่า ORAC Score หรือค่าความสามารถในการตัานอนุมูลอิสระสูงมาก เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับอาหารที่มีคุณประโยชน์สูง (Superfood) อย่างผัก ผลไม้ และเครื่องเทศ ได้ดังนี้
- แอสต้าแซนทีน (Asta xanthin) = 28,222
- ขิง (Ginger) = 14,840
- ทับทิม (Pomegranate) = 10,500
- ถั่วดำ (Black Beans) = 8,040
- กระเทียม (Garlic) = 5,346
- บล็อคโคลี (Bloccoli) = 2,809
- ผักโขม (Spinach) = 1,515
- น้ำมันมะกอก (Olive Oil) = 1,150
- กล้วย (Banana) = 879
- มะเขือเทศ (Tomato) = 700
ค่า ORAC Score ยิ่งมีค่ามากเท่าไหร่หมายความว่ามีความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระ (Free Radical) มากเท่านั้น ยิ่งมีค่าน้อยเท่าไหร่หมายความว่ามีความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้แอสต้าแซนทีนยังมีโอกาสในการกลับมาเป็นอนุมูลอิสระอีกครั้ง (Pro-oxidant) ที่ต่ำกว่าทั้งเบต้น แคโรทีน (Beta Carotene) ไลโคปีน (Lycopene) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) อีก ซึ่งค่าตรงนี้หมายถึงการที่สารต้านอนุมูลอิสระชนิดนึงเมื่อทำการกำจัดอนุมูลอิสระแล้ว ตัวเองจะไม่กลายเป็นอนุมูลอิสระซะเองหรือถ้าจะเป็นก็มีโอกาสเป็นให้น้อยที่สุด
เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระจริงๆ ORAC score ก็สูง และ Pro-oxidant ก็ต่ำ
วิตามินอี ทาหน้า VS วิตามินอี อาหารเสริม
ผลข้างเคียง
เมื่อรับประทานแอสต้าแซนทีนมากเกินไปและติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจจะมีผลทำให้ลำไส้ขยับมากเกินไป อุจจาระเป็นสีแดง หรือปวดท้องได้
อาหารเสริมผิวขาว | กินแล้วทำให้ ขาว-ใส-ออร่า
แอสต้าแซนทินเกรดการแพทย์
AstaSure อาหารเสริมที่คิดค้นและพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
บริษัทแรกในโลกที่สามารถผลิตแอสต้าแซนทีนจากธรรมชาติ มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 30 ปี มาจากการเพาะเลี้ยงสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส ในพื้นที่ปิดที่มีความเงียบสงบเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ได้สารแอสต้าแซนทีนที่มีประโยชน์สูงสุดและสะอาดปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของน้ำมันที่มีประโยชน์กับร่างกายอีก 9 ชนิด คือ
- น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed Oil)
- น้ำมันโบราจ (Borage Oil)
- น้ำมันงาขี้ม้อน (Perilla Oil)
- น้ำมันอโวคาโด (Avocado Oil)
- น้ำมันจมูกข้าวสาลี (Wheat Germ Oil)
- น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)
- น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil)
- น้ำมันอีฟนิ่งพรีมโรส (Evening Primrose Oil)