แมกนีเซียม – Magnesium | กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่
แมกนีเซียม กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่ | อาหารเสริม แมกนีเซียม หรือ Magnesium ควรรับประทานตอนไหนถึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด ควรรับประทานวันละเท่าไหร่เพื่อไม่ให้เกินและไม่ให้ขาด
แมกนีเซียม – Magnesium | คือ? ประโยชน์? อาหาร?
แมกนีเซียม – Magnesium | กินตอนไหน
ร่างกายต้องแร่ธาตุแมกนีเซียมทุกวันและต้องได้รับจากอาหารภายนอกเท่านั้นเพราะร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้เอง โดยเฉลี่ยแล้วแมกนีเซียมอยู่ในร่างกาย ~24 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นสามารถรับประทานต่อเนื่องได้ทุกวัน (ถ้ายี่ห้อนั้นไม่มีสารพิษโลหะหนัก สารปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม) รับประทานตอนไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเย็น แต่ถ้าดีที่สุดควรเป็นก่อนนอน เพราะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายอารมณ์ ผ่อนคลายจิตใจ ผ่อนคลายระบบประสาท และช่วยทำให้นอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น โดยจะรับประทานพร้อมอาหารหรือตอนท้องว่างก็ได้เพราะละลายได้ดีในน้ำ
แมกนีเซียม – Magnesium | ยี่ห้อไหนดี? | วิธีเลือกซื้อ วิธีกิน วิธีเก็บ
แมกนีเซียม – Magnesium | กินวันละเท่าไหร่
สถาบันสุขภาพแห่งชาติ หรือ NIH (National Institutes of Health) แนะนำปริมาณที่ควรได้รับ ดังนี้
- แรกเกิด – 6 เดือน | 30 มิลลิกรัม ต่อวัน
- 7 – 12 เดือน | 75 มิลลิกรัม ต่อวัน
- 1 – 3 ปี | 80 มิลลิกรัม ต่อวัน
- 4 – 8 ปี | 130 มิลลิกรัม ต่อวัน
- 9 – 13 ปี | 240 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้ชาย 14 – 18 ปี | 410 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้หญิง 14 – 18 ปี | 360 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้ชาย 19 – 30 ปี | 400 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้หญิง 19 – 30 ปี | 310 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้ชาย 31 – 50 ปี | 420 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้หญิง 31 – 50 ปี | 320 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้ชาย อายุ 51 ปี ขึ้นไป | 420 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้หญิง อายุ 51 ปี ขึ้นไป | 320 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้หญิงวัยรุ่นที่กำลังตั้งครรภ์ | 400 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ที่กำลังตั้งครรภ์ | 350 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้หญิงวัยรุ่นที่กำลังให้นมบุตร | 360 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ที่กำลังให้นมบุตร | 310 มิลลิกรัม ต่อวัน
แมกนีเซียม – Magnesium | อาการเมื่อขาด? อาการเมื่อเกิน?
อาหารเสริมแมกนีเซียมเกรดการแพทย์
Chela Mag | อาหารเสริมแร่ธาตุแมกนีเซียมในรูปแบบคีเลต มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Chelated Magnesium = 100mg
Good Gut คือ อาหารเสริมใยอาหารประเภทละลายน้ำ (Water Soluble Dietary Fiber) ชนิดพาร์เชียลลี ไฮโดรไลซ์ กัวร์กัม (PHGG : Partially Hydrolyze Guar Gum) ที่สกัดมาจากเมล็ดกัวร์ (Guar Bean) ประเทศญี่ปุ่น ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านนี้มายาวนานกว่า 35 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่ามาจากธรรมชาติ ปราศจากพืชดัดแปลงพันธุกรรม การสังเคราะห์ และปลอดภัยจากสารพิษต่างๆ
ได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและด้านอาหาร ดังนี้
- FDA | องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
- Low – FODMAP | อาหารย่อยง่าย ไม่ท้องอืด ไม่ท้องผูก ไม่ท้องเฟ้อ ไม่ท้องเสีย ไม่ปวดท้อง
- GMO Free | ไม่มีพืชดัดแปลงพันธุกรรม
- Allergen Free | ไม่ทำให้เกิดการแพ้
- VEGAN | มาตรฐานอาหารเจ – มังสวิรัติ – วีแกน
- HALAL | มาตรฐานอาหารอิสลาม
- KOSHER | มาตรฐานอาหารยิว
มีงานวิจัยเฉพาะของ PHGG ทั้งในหลอดทดลอง ในสิ่งมีชีวิต และในมนุษย์ ว่ามีคุณประโยชน์ต่างๆ ดังนี้
- มีส่วนช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
- มีส่วนช่วยทำให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรง
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคอ้วน
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องผูก
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องเสีย
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้แปรปรวน (IBS: Irritable Bowel Sysdrome)
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD: Inflammatory Bowel Disease)
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
- มีส่วนช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
- มีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ
- มีส่วนช่วยเพิ่มกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) ในลำไส้
- มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด
- มีส่วนช่วยลดค่าดัชนีน้ำตาล (GI: Glycemic Index)
- มีส่วนช่วยลดความโหยหลังจากมื้ออาหาร
- มีส่วนช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
- มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C: Hemoglobin A1C)
ละลายน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดื่มวันละ 1 ซอง