โอเมก้า 3 – Omega 3 | ยี่ห้อไหนดี? | วิธีเลือกซื้อ วิธีกิน วิธีเก็บ
โอเมก้า 3 ยี่ห้อไหนดี? | อาหารเสริมโอเมก้าสาม (Omega-3) ในตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อ หลายแบบหลายราคา หลายขนาด บางคนก็รีวิวยี่ห้อนี้ดี บางคนก็บอกยี่ห้อนั้นดี ตกลงวิธีการเลือกซื้อแบบวิทยาศาสตร์ควรดูอะไรบ้าง? ควรรับประทานตอนไหน? ควรเก็บรักษายังไง?
โอเมก้า 3 ยี่ห้อไหนดี | วิธีเลือกซื้อ
1. ดูแหล่งที่มา
อย่างแรกต้องดูว่าตัวคุณรับประทานอาหารแบบไหน รับประทานได้ทั้งสัตว์และพืช หรือพืชอย่างเดียว
โอเมก้า 3 จากสัตว์
- น้ำมันปลา
- น้ำมันตับปลา
โอเมก้า 3 จากพืช
- น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์
- น้ำมันงาขี้ม้อน
2. ดูส่วนประกอบ
อาหารเสริมจะมีทั้งส่วนที่อยากได้และไม่อยากได้ แต่ละยี่ห้อจะมีสัดส่วนไม่เท่ากันให้พลิกฉลากด้านหลังดู
ควรมีน้อย
- Omega-6 (Total Fat – EPA + DHA)
- Saturated Fat
- Cholesterol
- Toxin
ควรมีมาก
- EPA
- DHA
- ALA
- Antioxidant
3. ดูแบบเม็ดหรือแบบขวด
แบบเม็ด
- เป็นเม็ดแคปซูล
- บรรจุน้ำมันแยกออกมาเป็นเม็ด
- หยิบน้ำมันออกมาจากขวดเป็นเม็ดกลืน
- ดูดซึมช้ากว่า
- กลืนยากกว่า
- รักษาคุณภาพได้ง่ายกว่า
- มีประโยชน์ต่อจุลินทรีย์ในช่องปากน้อยกว่า
แบบขวด
- เป็นขวดของเหลว
- บรรจุน้ำมันรวมกันทั้งขวด
- เทน้ำมันออกมาจากขวดใส่ช้อนกลืน
- ดูดซึมเร็วกว่า
- กลืนง่ายกว่า
- รักษาคุณภาพได้ยากกว่า
- มีประโยชน์ต่อจุลินทรีย์ในช่องปากมากกว่า
4. ดูปริมาณต่อหน่วย
ปริมาณต่อหน่วยบริโภคก็สำคัญ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์แบบเม็ดแคปซูล ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย คือ
- เม็ดใหญ่ | ได้ปริมาณต่อเม็ดสูงแต่กลืนยาก โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
- เม็ดเล็ก | ได้ปริมาณต่อเม็ดน้อยแต่กลืนง่าย โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
5. ดูบรรจุภัณฑ์
โอเมก้า 3 จะสามารถรักษาคุณภาพให้ได้นานถ้ามีบรรจุภัณฑ์แบบนี้
- ทึบแสง | ขวดทึบแสงช่วยป้องกันแสงเข้าไปทำลายโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัว
- ฝาสนิท | ขวดฝาปิดสนิทช่วยป้องกันอากาศเข้าไปทำลายโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัว
- ปริมาณไม่สูง | ยิ่งปริมาณต่อขวดสูง ยิ่งเพิ่มโอกาสที่โอเมก้า 3 ที่เหลือในขวดจะถูกทำลาย
6. ดูสารพิษปนเปื้อน
โลกในปัจจุบันไม่สะอาดเหมือนโลกสมัยก่อนแล้ว บริโภคอาหารเสริมเพราะต้องการโอเมก้า 3 ไม่ใช่สารพิษจากสิ่งแวดล้อม พบว่าในปัจจุบันมีสารพิษที่ร่างกายไม่ต้องการ เช่น
- ปรอท (Murcury)
- พีซีบี (PCBs : Polychlorinated Biphenyls)
- พลาสติกขนาดเล็ก (Microplastic)
- ไซยาไนด์ (Cyanide)
- อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin)
7. ดูส่วนผสมอื่น
โอเมก้า 3 คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Un Saturated Fat) เพราะฉะนั้นควรมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เข้ามาปกป้องสารสำคัญเหล่านี้จากอนุมูลอิสระ เช่น
- วิตามินอี (Vitamin-E)
- กรดอัลฟ่าไลโปอิก (Alpha Lipoic Acid)
โอเมก้า 3 | คืออะไร? ช่วยอะไร? มีข้อเสียอะไร?
โอเมก้า 3 ยี่ห้อไหนดี | วิธีรับประทาน
ไม่มีปริมาณที่แน่นอนเฉพาะบุคคลเพราะว่า
- แต่ละคนรับประทานอาหารหลักไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน
- อาหารเสริมแต่ละยี่ห้อมีสัดส่วน ALA : EPA : DHA ไม่เท่ากัน
- อาหารเสริมแต่ละยี่ห้อมีไขมันอื่นที่ไม่ใช่ Omega-3 ไม่เท่ากัน
จากการสำรวจภาวะสุขภาพและโภชนาการระดับชาติโดยการตรวจร่างกาย (National Health and Nutrition Examination Survey) แนะนำปริมาณของ ALA จากอาหาร เท่ากับ 1.59 กรัมต่อวัน สำหรับผู้หญิง และ 2.06 กรัมต่อวัน สำหรับผู้ชาย
สำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป (The European Food Safety Authority) แนะนำปริมาณ EPA และ DHA เท่ากับ 250-500 มิลลิกรัมต่อวัน
Omega-3 จากพืช VS Omega-3 จากสัตว์
โอเมก้า 3 ยี่ห้อไหนดี | วิธีเก็บรักษา
“ความร้อน อากาศ ความชื้น” เป็นตัวแปรที่ทำให้ทุกอย่างเสื่อมสภาพเร็ว รวมถึงโอเมก้า 3 ด้วย
- ถ้าเปิดรับประทานแล้ว ปิดฝาให้สนิท อย่าให้อากาศเข้าไป
- ถ้าเปิดรับประทานแล้ว เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา
- ถ้ายังไม่เปิดรับประทาน เก็บในช่องฟรีซ
น้ํามันปลา VS น้ํามันตับปลา | ต่างกันยังไง? อะไรดีกว่า?
อาหารเสริมโอเมก้า 3 เกรดการแพทย์
Bio Active Lipids | อาหารเสริมน้ำมันปลาเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Concentrated fish-omega3 triglycerides = 1000mg
- equiv. Eicosapentaenoic acid (EPA) = 360mg
- equiv. Docosahexaenoic acid (DHA) = 240mg
Good Gut คือ อาหารเสริมใยอาหารประเภทละลายน้ำ (Water Soluble Dietary Fiber) ชนิดพาร์เชียลลี ไฮโดรไลซ์ กัวร์กัม (PHGG : Partially Hydrolyzed Guar Gum) ที่สกัดมาจากเมล็ดกัวร์ (Guar Bean) ประเทศญี่ปุ่น ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านนี้มายาวนานกว่า 35 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่ามาจากธรรมชาติ ปราศจากพืชดัดแปลงพันธุกรรม การสังเคราะห์ และปลอดภัยจากสารพิษต่างๆ
ได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและด้านอาหาร ดังนี้
- FDA | องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
- Low – FODMAP | อาหารย่อยง่าย ไม่ท้องอืด ไม่ท้องผูก ไม่ท้องเฟ้อ ไม่ท้องเสีย ไม่ปวดท้อง
- GMO Free | ไม่มีพืชดัดแปลงพันธุกรรม
- Allergen Free | ไม่ทำให้เกิดการแพ้
- VEGAN | มาตรฐานอาหารเจ – มังสวิรัติ – วีแกน
- HALAL | มาตรฐานอาหารอิสลาม
- KOSHER | มาตรฐานอาหารยิว
มีงานวิจัยเฉพาะของ PHGG (Partially Hydrolyzed Guar Gum) ทั้งในหลอดทดลอง ในสิ่งมีชีวิต และในมนุษย์ ว่ามีคุณประโยชน์ต่างๆ ดังนี้
- มีส่วนช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
- มีส่วนช่วยทำให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรง
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคอ้วน
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องผูก
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องเสีย
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้แปรปรวน (IBS: Irritable Bowel Sysdrome)
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD: Inflammatory Bowel Disease)
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
- มีส่วนช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
- มีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ
- มีส่วนช่วยเพิ่มกรดไขมันสายสั้น (SCFAs: Short-Chain Fatty Acids) ในลำไส้
- มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด
- มีส่วนช่วยลดค่าดัชนีน้ำตาล (GI: Glycemic Index)
- มีส่วนช่วยลดความโหยหลังจากมื้ออาหาร
- มีส่วนช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
- มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C: Hemoglobin A1C)
ละลายน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดื่มวันละ 1 ซอง