Vitamin K – วิตามิน เค | ยี่ห้อไหนดี? | วิธีเลือกซื้อ วิธีกิน วิธีเก็บ
Vitamin K ยี่ห้อไหนดี? | อาหารเสริมวิตามินเคในท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อ หลายแบบ หลายราคา หลายขนาด บางคนก็รีวิวยี่ห้อนี้ดี บางคนก็บอกยี่ห้อนั้นดี ตกลงวิธีการเลือกซื้อควรดูอะไรบ้าง? ควรรับประทานตอนไหน? ควรเก็บรักษายังไง?
Vitamin K ยี่ห้อไหนดี | วิธีเลือกซื้อ
1. ดูรูปแบบและโครงสร้างของ Vitamin K
วิตามินเค หรือ วิตามิน K หรือ Vitamin K คือ วิตามินชนิดนึงที่จำเป็นสำหรับการแข็งตัวของเลือด ควบคุมการสะสมแคลเซียมในร่างกาย (เพิ่มการสะสมแคลเซียมในกระดูก ลดการสะสมแคลเซียมในหลอดเลือดและไต) บำรุงสุขภาพของหัวใจ และเกี่ยวข้องกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยมี 3 รูปแบบหลัก คือ
K1
- Phylloquinone
- การแข็งตัวของเลือด
K2
- Menaquinone
- หลอดเลือดและกระดูก
K3
- Menadione
- สังเคราะห์และเป็นพิษ
โดยรูปแบบที่น่าสนใจที่สุด คือ Vitamin K2 เพราะเป็นประโยชน์กับร่างกายมากที่สุดและร่างกายมักจะขาด รองลงมา คือ Vitamin K1 เพราะเป็นประโยชน์ด้านการแข็งตัวของเลือด โดยที่โครงสร้าง Vitamin K2 มีหลายฟอร์มขึ้นกับความยาวของสาย Isoprenoid Chain เช่น MK-4 MK-5 MK-6 MK-7 MK-8 MK-9 ยิ่งมีความยาวมากเท่าไหร่ยิ่งดูดซึมได้ดีและมีระยะเวลาออกฤทธิ์นาน
MK-n คือ ประเภทโครงสร้างย่อยของ Vitamin K2
- M = Menaquinone
- K = Vitamin K
- n = จำนวนคาร์บอนอะตอมในสาย Isoprenoid Chain
2. ดูเม็ดอาหารเสริม
เนื่องจาก Vitamin K เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน รูปแบบของเม็ดอาหารเสริมก็บอกได้ถึงคุณภาพ
- แบบเม็ดแข็ง | ดูดซึมได้ระดับนึง แต่ราคาต่ำ
- แบบซอฟท์เจล | ดูดซึมได้ดีกว่า แต่ราคาสูง
3. ดูปริมาณต่อหน่วย
สถาบันสุขภาพแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (NIH : National Institutes of Health) แนะนำว่าผู้ใหญ่ควรได้รับ Vitamin K เท่ากับ 120 ไมโครกรัม ต่อวัน สำหรับผู้ชาย และ 90 ไมโครกรัม ต่อวัน สำหรับผู้หญิง
4. ดูบรรจุภัณฑ์
แบบที่ดีที่สุด คือ แบบเม็ดเดี่ยวแยกใส่แผง เวลากินก็จะต้องแกะเอาเม็ดออกมาจากแผงทีละเม็ด แบบนี้คือดีที่สุด เพราะเราจะมั่นใจได้ว่าสารสำคัญต่างๆ ในเม็ดได้ถูกปกป้องอย่างดีจนกระทั่งเราเอาเข้าปากและกลืนลงไป แต่ถ้าแบบใส่กระปุกระหว่างที่เราเปิดเพื่อหยิบขึ้นมากิน 1 เม็ด อากาศและแสงก็จะเข้าไปภายในกระปุก ทำให้สารสำคัญค่อยๆ เสื่อมสลายไปทีละนิด
- แบบขวด | เก็บรักษาคุณภาพได้ดีระดับนึง ทันทีที่เปิดฝาครั้งแรก ทุกเม็ดในขวดจะเริ่มเสื่อม ราคาต่ำ
- แบบแผง | เก็บรักษาคุณภาพได้ดีที่สุด ทุกเม็ดจะถูกเก็บแยกกัน ไม่เสื่อมไปตามกัน ราคาสูง
เหมือนเราเสียเงินซื้อไป 100 เราก็อยากได้กิน 100 ถ้าแบบนี้ก็คุ้มค่า แต่ถ้าเสียเงินไป 100 แล้วได้กิน 50 อันนี้ก็ไม่คุ้ม เสียเงินเปล่าไปครึ่งนึง
5. ดูส่วนผสมอื่น
Vitamin K คือ วิตามินที่ละลายในไขมัน (Fat Soluble) ควรมีไขมันที่ดีเข้ามาช่วยทำละลาย เช่น
- วิตามินอี (Vitamin E)
- น้ำมันอะโวคาโด (Avocado Oil)
- น้ำมันมะกอก (Olive Oil)
- น้ำมันคาโนล่า (Canola Oil)
- น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil)
วิตามินเค Vitamin K | คือ? ช่วยอะไร? อาการเมื่อขาด?
Vitamin K ยี่ห้อไหนดี | วิธีรับประทาน
สามารถรับประทานอาหารเสริม Vitamin K ตอนไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า ตอนกลางวัน หรือตอนเย็น สามารถรับประทานต่อเนื่องได้ทุกวัน (ถ้ายี่ห้อนั้นไม่มีสารพิษโลหะหนัก สารปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม) แต่ที่สำคัญที่สุดคือควรรับประทานพร้อมมื้ออาหารเพื่อให้ดูดซึมได้ดี ไม่ควรรับประทานตอนท้องว่าง
Vitamin K ยี่ห้อไหนดี | วิธีเก็บรักษา
“ความร้อน อากาศ ความชื้น” เป็นตัวแปรที่ทำให้ทุกอย่างเสื่อมสภาพเร็ว รวมถึง Vitamin K ด้วย
- แบบขวด | ปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังเปิดรับประทานและเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา
- แบบแผง | ใส่กล่องทึบแสงและเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา
วิตามิน K กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่
อาหารเสริม Vitamin K เกรดการแพทย์
K-Pearls Bio-Vitamin K-2 | อาหารเสริมวิตามินเคสองเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้
- K2 VITAL 5% MCT Oil = 1.5mg
Natto Plus | อาหารเสริมนัตโตะเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Natto Extract = 150mg
- Garlic Extract = 100mg
- Gingko Biloba Extract = 50mg