Pycnogenol – พิกโนจีนอล – สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส | ยี่ห้อไหนดี?
Pycnogenol หรือ พิกโนจีนอล หรือ พิกโนจินอล หรือ พิคโนจีนอล หรือ สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส ยี่ห้อไหนดี | เป็นคำถามที่คนส่วนใหญ่ที่เมื่อสนใจอาหารเสริมพิกโนจินอลอยากรู้ แต่ไม่รู้วิธีการเลือกซื้อว่าควรดูอะไรบ้าง? วิธีการกินว่าควรกินตอนไหน? ควรกินวันละเท่าไหร่? มีผลข้างเคียงที่ควรระวังไหม? วิธีการเก็บว่าควรเก็บรักษายังไงไม่ให้เสื่อมสลาย?
Pycnogenol ยี่ห้อไหนดี | วิธีเลือกซื้อ
1. ดูคุณภาพก่อนเสมอ
Pycnogenol เป็นสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส (French Maritime Pine Bark Extract) ที่มีทั้งแบบสกัดมาจากธรรมชาติและแบบสังเคราะห์ Horphag Research คือบริษัทผู้ผลิตพิกโนจินอลจากธรรมชาติมานานกว่า 40 ปี มีความคุณภาพ ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่แบรนด์อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางที่เลือกพิกโนจินอลแบบสกัดมาจากธรรมชาติก็มักจะใช้วัตถุดิบจากบริษัทนี้
ของทุกอย่างมีต้นทุนรวมถึงพิกโนจินอลด้วย ของดีไม่มีราคาต่ำเป็นเรื่องปกติ ถ้าแบรนด์ไหนราคาต่ำเป็นพิเศษให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นแบบสังเคราะห์
2. ดูแบบกินหรือแบบทา
แบบกิน | อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของพิกโนจินอล กินเข้าไปก็ดูดซึมและกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย
แบบทา | ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของพิกโนจินอล ทาตรงไหนเซลล์บริเวณนั้นก็ได้ประโยชน์
3. ดูปริมาณต่อเม็ด
สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NIH : National Institutes of Health) แนะนำว่าผู้ใหญ่สามารถรับประทานพิกโนจินอลได้ 50-450 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 1 ปี
Pycnogenol กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่
4. ดูบรรจุภัณฑ์
แบบขวด | เก็บรักษาคุณภาพได้ดีระดับนึง ทันทีที่เปิดฝาครั้งแรก ทุกเม็ดในขวดจะเริ่มเสื่อม แต่ราคาต่ำ
แบบแผง | เก็บรักษาคุณภาพได้ดีที่สุด ทุกเม็ดจะถูกเก็บแยกกัน ไม่เสื่อมไปตามกัน แต่ราคาสูง
5. ดูส่วนผสมอื่นไหม
ปัจจุบันความรู้วิทยาศาสตร์สุขภาพ (Anti-Aging and Regenerative Medicine) พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนาไปอย่างมาก ทำให้มีการใส่สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย เช่น
- Astaxanthin
- Coenzyme Q10
- Vitamin E
Pycnogenol ยี่ห้อไหนดี | วิธีรับประทาน
สารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในพิกโนจินอลเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์ที่สามารถพบได้ในสีของผักและผลไม้ ซึ่งมีคุณสมบัติละลายในน้ำ
เพราะฉะนั้นควรรับประทานอาหารเสริมพิกโนจินอลในตอนเช้าเพื่อให้เข้าไปต่อต้านอนุมูลอิสระที่มักจะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในระหว่างวัน สามารถรับประทานพร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้ แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นคือความสามารถในการดูดซึมของลำไส้ ถ้ามีอาการท้องผูก สารอาหารต่างๆ ไม่ใช่แค่พิกโนจินอลก็ดูดซึมยาก
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ เหมือนรับประทานเข้าไป 100 แต่ร่างกายดูดซึมได้ 10 อีก 90 อุจจาระทิ้งเพราะดูดซึมไม่ได้
Pycnogenol ยี่ห้อไหนดี | ผลข้างเคียง
คนส่วนใหญ่ที่รับประทานพิกโนจินอลไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไร แต่ให้ดีที่สุดแนะนำว่าควรเริ่มต้นรับประทานจากปริมาณต่ำก่อนเพื่อดูปฎิกิริยาตอบสนองของร่างกายว่าเป็นยังไง ซึ่งผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มีดังนี้
- คลื่นไส้ ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ
- ปวดหัว เวียนหัว
- แผลในปาก
- อ่อนล้า อ่อนเพลีย ง่วงนอน
- ระคายเคืองผิวหนัง
Pycnogenol | วิธีเก็บรักษา
“ความร้อน อากาศ ความชื้น” เป็นตัวแปรที่ทำให้ทุกอย่างเสื่อมสภาพเร็ว รวมถึงพิกโนจินอลด้วย เพราะฉะนั้นควรเก็บอาหารเสริมพิกโนจินอลในตู้เย็นช่องธรรมดา
Asta Bonnita’s | อาหารเสริมแอสต้าแซนทินเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Haematococcus Pluvialis (Equivalent to Astaxanthin 4 mg) = 50 mg
- Pycnogenol = 40mg
- Zinc Amino Acid Complex (Zn 20%) = 45 mg
Bio-Pycnogenol | อาหารเสริมไบโอ-พิกโนจินอลเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Pycnogenol = 40mg
Aura White | อาหารเสริมที่ปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้น มีส่วนประกอบ ดังนี้
- N-Acetyl-L-Cysteine = 900mg
- L-Glutathione = 100mg
- Pine Bark = 40mg