Astaxanthin – แอสต้าแซนทีน – แอสต้าแซนธิน | กินตอนไหน กินวันละ
Astaxanthin หรือ แอสต้าแซนทีน หรือ แอสต้าแซนทิน หรือ แอสต้าแซนธิน กินตอนไหน กินตอนไหนดีที่สุด กินยังไง กินวันละกี่มิลลิกรัม … คำถามทั้งหมดเกี่ยวกับวิธีรับประทาน คำตอบอยู่ในบทความนี้ทั้งหมดครับ
นอกจากนั้นแล้วยังมีคำถามที่คนส่วนใหญ่อยากรู้เกี่ยวกับแอสต้าแซนทิน สามารถคลิกไปอ่านได้เลยครับ
- Astaxanthin คือ / ประโยชน์ / ผลข้างเคียง / ช่วยอะไร
- Astaxanthin ยี่ห้อไหนดี
- Astaxanthin ควรกินคู่กับอะไร / ไม่ควรกินคู่กับอะไร
Astaxanthin กินตอนไหน
Astaxanthin หรือ แอสต้าแซนทิน คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ แล้วพบว่าแข็งแรงกว่า…
- วิตามินซี (Vitamin C) มากถึง 6,000 เท่า
- เรสเวอราทรอล (Resveratrol) มากถึง 3,000 เท่า
- โคเอ็นไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10) มากถึง 800 เท่า
- คาเทชิน (Catechin) มากถึง 560 เท่า
- วิตามินอี (Vitamin E) มากถึง 500 เท่า
- เบต้า แคโรทีน (Beta Carotene) มากถึง 11 เท่า
- ลูทีน (Lutein) มากถึง 2.6 เท่า
- ไลโคปีน (Lycopene) มากถึง 1.6 เท่า
จนถูกขนานนามว่าเป็น The King of Antioxidants
เพราะฉะนั้นเราควรรับประทานแอสต้าแซนทินพร้อมอาหารหรือหลังอาหารมื้อเช้าทันที เพราะว่า
- แอสต้าแซนทินเป็นสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระ ถ้าอยากได้ประโยชน์จากมันเต็มที่เราก็ควรกินตอนเช้าก่อนที่ร่างกายจะไปเจอแสงแดด แสงยูวี ความเครียด อนุมูลอิสระต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นมากในระหว่างวัน ไม่ใช่มากินตอนเย็นหรือก่อนนอน ซึ่งอนุมูลอิสระจะน้อยกว่ามาก
- แอสต้าแซนทินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน ถ้ากินพร้อมมื้ออาหารหรือหลังมื้ออาหารทันทีก็จะมีน้ำมันช่วยนำพาเข้าเซลล์ได้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบางยี่ห้อที่คุณภาพสูง ก็จะมีส่วนผสมของไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อเซลล์ รวมถึงเทคโนโลยีในการแตกตัวช่วยทำให้ดูดซึมแอสต้าแซนทินได้ดีขึ้นไปอีกระดับ
Astaxanthin กินวันละเท่าไหร่
สามารถพบแอสต้าแซนทีนได้ตามธรรมชาติและมีความเข้มข้นในแต่ละอย่าง ดังนี้
- แซลมอน ~5 ppm
- แพลงตอน ~60 ppm
- เคย ~120 ppm
- กุ้งทะเลน้ำลึก ~1,200 ppm
- ยีสต์พลัฟเฟีย ~10,000 ppm
- สาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส ~40,000 ppm
พบมากที่สุดในสาหร่ายทะเลน้ำลึกชื่อว่า ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (Haematococcus pluvialis)
นับตั้งแต่ปี 1938 ที่ Richard Kuhn นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้ค้นพบสารแอสต้าแซนทินโดยบังเอิญ ทำให้มีบริษัทมากมายในหลายๆ ประเทศ เข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เพาะเลี้ยงสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส, ผู้นำสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส มาสกัดเอาสารแอสต้าแซนทิน, ผู้เพาะเลี้ยงสาหร่ายและนำมาสกัด, ผู้ขายสารแอสต้าแซนทิน รวมถึงผู้ผลิตสารแอสต้าแซนทินขึ้นโดยการสังเคราะห์ให้เหมือนของจากธรรมชาติ
ในฐานะผู้บริโภคก็อยากได้ของคุณภาพดีมารับประทาน แต่ด้วยการขาดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ไม่รู้วิธีการเลือกซื้อ และงบประมาณของแต่ละบุคคล ทำให้แต่ละคนเลือกอาหารเสริมแอสต้าแซนทินมารับประทานได้หลากหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ ซึ่งหลักๆ ก็จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
- แอสต้าแซนทินจากธรรมชาติ
- ความเข็มข้น 10% | รับประทาน 4-6 มิลลิกรัม/วัน เพื่อป้องกันโรค
- ความเข้มข้น 5% | รับประทาน 8-10 มิลลิกรัม/วัน เพื่อป้องกันโรค
- ความเข้มข้น 2.5% | รับประทาน 10-12 มิลลิกรัม/วัน เพื่อป้องกันโรค
- แอสต้าแซนทินจากการสังเคราะห์
- ต้องรับประทานปริมาณมากๆ แต่ก็ไม่ค่อยเห็นผลเทียบเท่ากับแอสต้าแซนทินจากธรรมชาติ
จะสังเกตว่าแอสต้าแซนทินจากธรรมชาติก็จะคุณภาพสูงกว่าแอสต้าแซนทินจากการสังเคราะห์ แล้วในแอสต้าแซนทินจากธรรมชาติเองก็มีหลายเกรด ถ้าความเข้มข้นสูงกว่าก็จะคุณภาพสูงกว่าความเข้มข้นที่ต่ำกว่า เหมือนน้ำกะทิที่ความหลายเกรด หัวกะทิ-หางกะทิ ความเข้มข้นหอมมันก็แตกต่างกัน ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
- ความเข้มข้น 10% | ซื้อแอสต้าแซนทิน 100 บาท จะได้รับสารแอสต้าแซนทิน 10 บาท
- ความเข้มข้น 5% | ซื้อแอสต้าแซนทิน 100 บาท จะได้รับสารแอสต้าแซนทิน 5 บาท
- ความเข้มข้น 2.5% | ซื้อแอสต้าแซนทิน 100 บาท จะได้รับสารแอสต้าแซนทิน 2.5 บาท
ยิ่งความเข้มข้นสูงก็จะได้รับสารแอสต้าแซนทินเยอะ เพราะฉะนั้นปริมาณในการกินก็จะน้อยกว่าความเข้มข้นที่ต่ำกว่า แต่ราคาก็จะสูงกว่า คุณภาพก็จะสูงกว่า
Astaxanthin เก็บยังไง
แอสต้าแซนทินจะเสื่อมคุณภาพลงเกิดจาก 3 สาเหตุ คือ อากาศ แสงแดด และอุณหภูมิ เพราะฉะนั้นควรเก็บไว้ไม่ให้โดนแดด เก็บไว้ในที่เย็นหรือในตู้เย็นช่องธรรมดา และอย่าให้เม็ดที่ยังไม่ได้รับประทานโดนอากาศ ให้คุณสังเกตประเภทของบรรจุภัณฑ์ของยี่ห้อที่ซื้อมารับประทานว่าเป็นแบบไหน
- แบบกระปุกรวม
- ข้อดี คือ ราคาต่ำ
- ข้อเสีย คือ ทันทีที่เปิดกระปุกกินเม็ดแรก เม็ดที่เหลือทั้งหมดจะเริ่มเสื่อมทันทีโดยที่ยังไม่ได้กิน
- แบบเม็ดแยก
- ข้อดี คือ ทุกเม็ดเก็บแยกกันหมด แกะเม็ดไหนกิน เม็ดที่เหลือทั้งหมดก็ไม่เสื่อม
- ข้อเสีย คือ ราคาสูง
Astaxanthin เกรดการแพทย์
AstaSure อาหารเสริมที่คิดค้นและพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
บริษัทแรกในโลกที่สามารถผลิตแอสต้าแซนทินจากธรรมชาติ มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 30 ปี มาจากการเพาะเลี้ยงสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส ในพื้นที่ปิดที่มีความเงียบสงบเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ได้สารแอสต้าแซนทินที่มีประโยชน์สูงสุดและสะอาดปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของน้ำมันที่มีประโยชน์กับร่างกายอีก 9 ชนิด คือ
- น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed Oil)
- น้ำมันโบราจ (Borage Oil)
- น้ำมันงาขี้ม้อน (Perilla Oil)
- น้ำมันอโวคาโด (Avocado Oil)
- น้ำมันจมูกข้าวสาลี (Wheat Germ Oil)
- น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)
- น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil)
- น้ำมันอีฟนิ่งพรีมโรส (Evening Primrose Oil)