Anti Aging | ภาษาคนธรรมดาที่ไม่ใช่หมอ
เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging and Regenerative Medicine) คืออะไร? เกี่ยวกับอะไร? ดียังไง? ลองมาฟังภาษาคนธรรมดาที่ไม่ใช่กันดูครับ
ภาษาไทย
เวชศาสตร์ = ศาสตร์หรือวิชาในการรักษาโรค
ชะลอวัย = ชะลอหรือยับยั้งทำให้ช้าลง
ฟื้นฟูสุขภาพ = ทำให้สุขภาพดีขึ้นมาอีกครั้ง
ภาษาอังกฤษ
Anti = ยับยั้ง (อเมริกัน อ่านว่า แอนทาย / อังกฤษ อ่านว่า แอนตี้)
Aging = การแก่ชรา การเสื่อมถอยของร่างกาย
Regenerative = ทำให้เกิดขึ้นใหม่ สร้างใหม่
Medicine = การแพทย์
เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ หมายถึง การแพทย์อย่างนึงที่สนใจว่าจะทำยังไงให้ยับยั้งการเสื่อมถอยของร่างกาย ชะลอการแก่ชราของร่างกายให้ช้าลง
Anti Aging | การเสื่อมของร่างกาย
โดยที่ลงไปสนใจศึกษาส่วนที่เล็กที่สุดของร่างกาย ก็คือ เซลล์ เพราะเมื่อส่วนที่เล็กที่สุดทำงานสมบูรณ์ดีแล้ว ร่างกายที่เป็นส่วนประกอบของเซลล์หลายเซลล์ก็จะทำงานสมบูรณ์ดีไปด้วย
เปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น สมมติว่าร่างกายเหมือนรถยนต์คันนึง ทุกคนจะได้รับรถยนต์ใหม่ป้ายแดงทันทีที่เกิดมาจากท้องแม่ สิ่งที่คนทุกคนเหมือนกันคือได้รับรถยนต์ใหม่แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือ “ยี่ห้อ” และ “รุ่น” ของรถยนต์ที่เราจะได้ เราไม่สามารถเลือกได้ว่าจะได้รถแบบไหน-ยี่ห้อไหน-รุ่นอะไร เพราะขึ้นกับพ่อแม่เรา บางคนเกิดมาผิวขาวบางคนเกิดมาผิวดำ บางคนเกิดมาผมตรงบางคนเกิดมาผมหยิก ตรงนี้คือสิ่งที่เราเลือกไม่ได้ เรียกว่า “กรรมพันธุ์” เราไม่มีสิทธิ์เลือกได้เลยว่าจะได้มาแบบไหน
แต่สิ่งที่ทุกคนได้มาเหมือนกัน คือ ความเป็นรถยนต์คันใหม่ ใหม่เอี่ยมป้ายแดงเลย
ทันทีที่เราเริ่มหายใจเองได้ตอนนั้นเราจะเริ่มสตาร์ทเครื่องของรถยนต์ที่เราได้มาทันที และหลังจากนั้นเป็นต้นไป รถยนต์ของเราจะไม่ดับเครื่องอีกเลย จะมีแต่เร่งเครื่องหรือเบาเครื่องเท่านั้น เครื่องยนต์ของเราจะสตาร์ทไว้ตลอดเวลาจนกว่าเราจะเสียชีวิต เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพเข้ามามีบทบาทตรงระหว่างที่เราใช้ชีวิตนี่แหละครับ
เวชศาสตร์ชะลอวัย | 3 เรื่องที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด
เสื่อมทุกวัน ทุกนาที
ทุกคนได้รับรถยนต์คันใหม่ก็เหมือนเราได้รับร่างกายใหม่ตอนเกิด รถยนต์จะเริ่มใช้งานทันทีที่หายใจก็เหมือนเราเริ่มใช้ร่างกายเราตั้งแต่เกิด รถยนต์เติมน้ำมันอะไรเข้าไปก็เหมือนเรากินอะไรเข้าไปในร่างกาย รถยนต์ขับทุกวันก็เหมือนเราขยับร่างกายเราทุกวัน รถยนต์จอดอยู่เฉยๆ ก็เหมือนเรานอนแช่เป็นผักอยู่บนเตียง รถยนต์ออกไปวิ่งบนถนนโล่งบ้าง-ถนนขรุขยะบ้าง ก็เหมือนเราออกกำลังกายร่างกาย-บริหารร่างกาย
คนที่ใช้รถเป็นประจำจะรู้ว่ารถยนต์ที่ถูกใช้งานสม่ำเสมอดีกว่ารถยนต์ที่จอดทิ้งไว้เฉยๆ นานทีปีหาจะใช้รถที ก็จะมีปัญหาจุกจิกให้คอยซ่อมตลอด
รถยนต์เอาไปจอดที่ไหน จอดในร่มหรือตากแดดก็เหมือนร่างกายเราไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน น้ำ-อากาศ เป็นยังไง รถยนต์ออกป้ายแดงมาแล้วเอาไปเป็นรถบ้านหรือรถแท็กซี่ การใช้งานรถยนต์ 2 คันนี้ไม่เหมือนกันแน่ๆ ก็เหมือนคนที่ใช้งานร่างกายอย่างทะนุถนอมกับคนที่ใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วง รถยนต์ที่ใช้งานได้ปกติดีก็เหมือนกับร่างกายที่สมบูรณ์ดี รถยนต์ที่เสีย-มีปัญหาก็เหมือนร่างกายที่เป็นโรคต้องหาหมอเพื่อรักษา รถยนต์ที่พัง ใช้งานไม่ได้อีกแล้วก็เหมือนเราเสียชีวิตและไม่สามารถใช้งานร่างกายต่อไปได้
NAD+ Therapy ช่วยชะลอวัยจริงไหม?
Anti Aging | คู่มือการใช้งานร่างกาย
เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพก็เหมือนคู่มือการใช้งานของรถยนต์ ถ้าเรามีคู่มือการใช้งานแล้วศึกษามันก่อนใช้งานรถยนต์ เราก็จะใช้งานรถยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ (Healthspan) และใช้งานรถยนต์ได้นานที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ (Lifespan)
ตรงนี้แหละคือความสำคัญที่เจ้าของรถยนต์ควรต้องรู้ !!! ไม่ใช่หมอ
หมอก็เหมือนช่างซ่อมรถ ถ้ารถยนต์เราไม่ได้เป็นอะไรเราก็ไม่ได้คิดจะเข้าไปหาช่างอยู่แล้ว ไม่ได้บอกว่าหมอไม่จำเป็นนะครับ หมอสำคัญและจำเป็นสำหรับการรักษา เมื่อร่างกายเรามีปัญหา-เจ็บป่วย-ไม่สบาย ก็ต้องพึ่งพาหมอ ก็เหมือนกันกับตอนรถยนต์ของเราเสียก็ต้องพึ่งพาช่าง เพื่อซ่อมให้รถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
แต่คนที่เป็นเจ้าของรถยนต์ คนที่ต้องใช้รถยนต์ทุกวัน อยู่กับร่างกายทุกวัน ทุกเวลา ตลอดเวลา ตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต คือ ตัวคุณเอง !!!
เวชศาสตร์ชะลอวัย เรียนที่ไหน ในไทยหรือต่างประเทศ
คุณคือเจ้าของร่างกาย
คุณจะรู้จักร่างกายตัวเองดีที่สุด ไม่ใช่ช่างและไม่ใช่หมอ
ลองนึกภาพดูว่าเวลาคุณเข้าไปหาหมอ คนที่เป็นคนเล่าอาการ-ประวัติ-ที่มาที่ไป-เหตุการณ์ที่ผ่านมา เพื่อให้หมอใช้ความรู้และประสบการณ์ในการวินิจฉัย ก็คือตัวคุณ เวลาคุณเข้าไปหาช่าง คนที่บอกอาการ-ปัญหา-จุดสังเกต เพื่อให้ช่างใช้ความรู้และประสบการณ์ในการวิเคราะห์ ก็คือตัวคุณเหมือนกัน
ไม่มีช่างคนไหนยืนมองรถแล้วรู้ว่าอะไรเสียถ้าเจ้าของรถไม่บอกข้อมูลอะไรเลย ไม่มีหมอคนไหนมองหน้าแล้วรู้ว่าเป็นอะไรถ้าคนไข้ไม่บอกข้อมูลอะไรเลย
เวชศาสตร์ชะลอวัย หลอกลวง จริงหรือเปล่า?
Anti Aging | เน้นป้องกันเป็นหลัก
เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพเลยสนใจที่การป้องกันเป็นหลักและการรักษาเป็นรอง (Preventive Medicine) สนใจเข้าไปศึกษาเซลล์ ไปค้นคว้า-วิจัย-ทดลอง ทั้งหมดเพื่อหาวิธีที่จะทำยังไงให้มีสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด (Optimal Health)
พอมีสุขภาพสมบูรณ์สูงสุดแล้วร่างกายก็ทำงานสมบูรณ์สูงสุด เป็นการชะลอการเสื่อมยับยั้งการแก่ชราไปโดยปริยาย
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ คือ ความแก่ชรา (Aging Process) ความแก่ชราในทีนี้ หมายถึง ความเสื่อม-ความถดถอย ของร่างกาย ก็เหมือนกันกับรถยนต์ใหม่ป้ายแดงที่ไม่ว่าจะจอดทิ้งไว้เฉยๆ หรือขับใช้งานทุกวัน ยังไงมันก็เสื่อมแน่นอนเพียงแต่ว่าจะเสื่อมช้าหรือเสื่อมเร็วเท่านั้นเอง
การชะลอความแก่ชราไม่ได้หมายถึงจะไม่ให้เสื่อมถอยเลย ยังไงความเสื่อม-ความถดถอย ก็ต้องเกิดขึ้น เพียงแต่ว่าจะใช้วิทยาศาสตร์มาทำให้ชะลอการเสื่อมถอยที่มีอยู่แล้วให้เกิดขึ้นช้าลง แต่ไม่ได้หมายถึงว่าไม่ให้เกิดขึ้นเลย
เวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลรัฐ มีหรือเปล่า?
ภายนอก VS ภายใน
แล้วในรายละเอียดของคำว่าแก่ชรา ไม่ได้หมายถึงหน้าตา-ผิวพรรณ-รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นที่แก่ชรา เวลาร่างกายเริ่มถดถอย-เริ่มเสื่อม-เริ่มแก่ชรา มันไม่ได้มองเห็นจากภายนอกเท่านั้น ความแก่ชราได้เริ่มต้นมาจากภายใน เริ่มต้นมาจากเซลล์ทุกเซลล์ทั่วร่างกาย แล้วค่อยๆ สะสมความแก่ชราจนสุดท้ายมาแสดงออกให้เห็นภายนอก ไม่ว่าจะเป็นหน้าเหี่ยว-ผมหงอก-อ้วน-หลังค่อม สารพัดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs: Non-Communicable Diseases)
เปรียบเทียบเหมือนภูเขาน้ำแข็ง ความแก่ชราที่เราเห็นกันภายนอกเป็นเพียง 10% ของภูเขาน้ำแข็งทั้งหมด ยังมีความแก่ชราส่วนใหญ่ที่มากถึง 90% คือความแก่ชราภายในเซลล์ ภายในร่างกาย นี่คือเหตุผลที่ว่าเวชศาสต์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ไม่ใช่หมายถึงเพียงแค่เวชศาสตร์ความงาม (Aesthetics Medicine) เท่านั้น
ถ้าเราไปหาหมอผิวหนัง ดูแลหน้าเราให้ดียังไงเราก็ควรดูแลเซลล์ในร่างกายในดีเท่านั้น เพราะเราไม่สามารถปกปิดความแก่ชราภายในที่มีถึง 90% ได้ ลองนึกภาพดูว่าเราทำหน้าออกมาได้ดูดีมากแต่เซลล์ภายในเสื่อม เดินขึ้นบันไดนิดหน่อยก็เหนื่อยหอบ กินข้าวเสร็จต้องกินยาตลอด เหนื่อยล้า-อ่อนแรง-เพลีย ตลอดเวลาก็คงดูไม่ดีแน่ หน้าตาดูดีดูอ่อนกว่าวัยแต่ร่างกายเป็นคนแก่เลย
ให้ดีที่สุดคือดูแลตัวเองตั้งแต่ภายในโดยเริ่มต้นมาจากเซลล์ เมื่อเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายทำงานสมบูรณ์ อวัยวะทุกอย่างก็ทำงานสมบูรณ์ สุดท้ายก็จะแสดงออกมาภายในให้เห็นที่หน้าตา-ผิวพรรณ-ผม-เล็บ-บุคลิก-ท่าทาง แล้วเราก็ไปเสริมส่วนภายนอกอีก 10% ยิ่งเป็นการส่งเสริมกันทั้งจากภายในและภายนอก ดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอกและจากภายนอกสู่ภายใน
ชะลอวัยออนไลน์ | เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
หนังสือที่จะทำให้คุณเข้าใจเซลล์ของคุณ
ในหนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ร่างกายของตัวเอง ว่าทำงานยังไง อะไรบ้างที่ทำให้แก่เร็ว อะไรบ้างที่ทำให้แก่ช้า และสุดท้ายจะทำยังไงให้ชะลอความแก่ชราออกไปให้นานที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ ผ่านจากเรียนรู้ทั้งหมด 7 บท คือ
- เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (AntiAging and Regenerative Medicine)
- ทฤษฎีความชราในอดีต (Aging Theory in The Past)
- ทฤษฎีความชราในปัจจุบัน (Aging Theory in The Present)
- ปัจจัยที่เหนือกว่าพันธุกรรม (Epigenetic)
- ปัจจัยที่เร่งการแก่ชรา (Aging Force)
- ปัจจัยที่ยับยั้งการแก่ชรา (AntiAging Force)
- ใช้ชีวิตยังไงให้ชะลอวัย (How to AntiAging)
หนังสือที่จะทำให้คุณเข้าใจฮอร์โมนของคุณ
ในหนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกายของตัวเอง ว่าทำงานยังไง อะไรบ้างที่ทำให้ฮอร์โมนมากเกินไป อะไรบ้างที่ทำให้ฮอร์โมนน้อยเกินไป และจะทำยังไงให้ฮอร์โมนทำงานสมบูรณ์ ผ่านจากเรียนรู้ทั้งหมด 20 บท คือ
- ความรู้พื้นฐานของระบบฮอร์โมน (Basic Concept of Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการต้านแก่ (Growth Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการนอนหลับ (Melatonin Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการเผาผลาญพลังงานขั้นพื้นฐาน (Thyroid Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการอยู่รอด (Cortisol Hormone)
- แม่ของทุกฮอร์โมนประเภทไขมัน (Pregnenolone Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการควบคุมความดัน (Aldosterone Hormone)
- ฮอร์โมนเพศชายอย่างแรก (DHEA Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งความตกใจ โมโห หดหู่ (Catecholamines Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตไปข้างหน้า (Insulin Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการลดความอ้วน (Glucagon Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งความสุข (Dopamine-Endorphin-Oxytocin-Serotonin Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการอักเสบ (Prostaglandins Hormone)
- กลุ่มฮอร์โมนแห่งความเป็นเพศชาย (Androgen Group Hormone)
- กลุ่มฮอร์โมนแห่งความเป็นเพศหญิง (Estrogen Group Hormone)
- กลุ่มฮอร์โมนแห่งความแข็งแรงของกระดูก (Parathyroid-Calcitonin Hormone)
- ฮอร์โมนที่เกิดจากไขมันสะสม (Fat Hormone)
- ฮอร์โมนทุกอย่างทำงานร่วมกัน (Hormone Symphony)
- อาการที่ทำให้รู้ว่าฮอร์โมนเพี้ยน (Health Effect to Hormone Dysfunction)
- ทำยังไงให้ฮอร์โมนทำงานสมบูรณ์ (Lifestyle for Optimal Hormone)