วิตามิน อี – Vitamin E | ยี่ห้อไหนดี? | วิธีเลือกซื้อ วิธีใช้ วิธีเก็บ
วิตามินอี ยี่ห้อไหนดี? | วิตามินอีในท้องตลาดมีมากมายหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ หลายราคา หลายขนาด บางคนก็รีวิวยี่ห้อนี้ดี บางคนก็บอกยี่ห้อนั้นดี ตกลงวิธีการเลือกซื้อควรดูอะไรบ้าง? ควรใช้ตอนไหนดี? ควรเก็บรักษายังไง?
วิตามินอี Vitamin E | คืออะไร? ช่วยอะไร? อยู่ในอาหารอะไร?
วิตามินอี ยี่ห้อไหนดี | วิธีเลือกซื้อ
1. ดูแบบกินหรือแบบทา
แบบกิน | อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินอี กินเข้าไปก็ดูดซึมและกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย
แบบทา | ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินอี ทาตรงไหนเซลล์บริเวณนั้นก็ได้ประโยชน์
2. ดูประเภทของ Vitamin E
Vitamin E ในปัจจุบันจะมีอยู่ 2 รูปแบบหลักและ 4 โครงสร้างย่อย คือ
Tocopherol | ออกฤทธิ์ได้ดีระดับนึง พบได้ในอาหารเสริมทั่วไป ราคาต่ำ
- Alpha-Tocopherol | ประสิทธิภาพสูงสุด 100%
- Beta-Tocopherol | ประสิทธิภาพรองลงมา 50%
- Gamma-Tocopherol | ประสิทธิภาพต่ำ 10%
- Delta-Tocopherol | ประสิทธิภาพต่ำสุด 3%
Tocotrienol | ออกฤทธิ์ได้ดีกว่า 60 เท่า พบได้ในอาหารเสริมเกรดการแพทย์ ราคาสูง
- Alpha-Tocotrienol | ประสิทธิภาพสูงสุด 100%
- Beta-Tocotrienol | ประสิทธิภาพรองลงมา 50%
- Gamma-Tocotrienol | ประสิทธิภาพต่ำ 10%
- Delta-Tocotrienol | ประสิทธิภาพต่ำสุด 3%
3. ดูปริมาณต่อหน่วย
สถาบันสุขภาพแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (NIH : National Institutes of Health) แนะนำว่าผู้ใหญ่ควรได้รับ Vitamin E เท่ากับ 15 มิลลิกรัม ต่อวัน โดยที่บางยี่ห้อไม่ได้ใช้หน่วยมิลลิกรัมแต่ใช้เป็น IU (International Unit) สามารถเปรียบเทียบได้ ดังนี้
- 1 IU = 0.67 มิลลิกรัม สำหรับวิตามินอีจากธรรมชาติ
- 1 IU = 0.45 มิลลิกรัม สำหรับวิตามินอีจากสังเคราะห์
4. ดูบรรจุภัณฑ์
แบบขวด | เก็บรักษาคุณภาพได้ดีระดับนึง ทันทีที่เปิดฝาครั้งแรก ทุกเม็ดในขวดจะเริ่มเสื่อม แต่ราคาต่ำ
แบบแผง | เก็บรักษาคุณภาพได้ดีที่สุด ทุกเม็ดจะถูกเก็บแยกกัน ไม่เสื่อมไปตามกัน แต่ราคาสูง
5. ดูส่วนผสมอื่น
ปัจจุบันความรู้วิทยาศาสตร์สุขภาพ (Anti-Aging and Regenerative Medicine) พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตที่พัฒนาไปอย่างมาก ทำให้มีการใส่สารต้านอนุมูลอิสระอื่นที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย เช่น
- Astaxanthin
- Vitamin D
- Coenzyme Q10
- Selenium
Tocopherol VS Tocotrienol | ต่างกันยังไง? อันไหนดีกว่ากัน?
วิตามินอี ยี่ห้อไหนดี | วิธีรับประทาน
สามารถรับประทานอาหารเสริม Vitamin E ตอนไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเย็น แต่ถ้าดีที่สุดตอนมื้อสุดท้ายของวัน สามารถรับประทานต่อเนื่องได้ทุกวัน (ถ้ายี่ห้อนั้นไม่มีสารพิษโลหะหนัก สารปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม) และที่สำคัญที่สุดคือควรรับประทานพร้อมมื้ออาหารเพื่อให้ดูดซึมได้ดี ไม่ควรรับประทานตอนท้องว่าง
Vitamin E แบบทาหน้า VS Vitamin E แบบเม็ดกลืน
วิตามินอี ยี่ห้อไหนดี | วิธีเก็บรักษา
“ความร้อน อากาศ ความชื้น” เป็นตัวแปรที่ทำให้ทุกอย่างเสื่อมสภาพเร็ว รวมถึง Vitamin E ด้วย
- แบบขวด | ปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังเปิดรับประทานและเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา
- แบบแผง | ใส่กล่องทึบแสงและเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา
Vitamin E กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่
อาหารเสริม Vitamin E + Astaxanthin
Asta Plus | อาหารเสริมแอสต้าแซนทินผสมวิตามินอีเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Astaxanthin (Astareal® Equivalent to 4 mg) = 80 mg
- Tocotrienol Complex (Equivalent to 50 mg) = 200mg