น้ำมันปลา – Fish Oil | ช่วยอะไร? มีผลข้างเคียงอะไร?

น้ำมันปลา หรือ Fish Oil คือ ไขมันที่ได้มาจากเนื้อปลาทะเลหลากหลายชนิด เช่น ปลาแฮร์ริ่ง ปลาทูน่า ปลาแอนโชวี่ ปลาเทราท์ ปลาแซลมอน ปลาแมคคอเรล ปลาซาดีน ยิ่งปลาทะเลน้ำลึกยิ่งมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการในปริมาณสูง โดยในปี 2023 มูลค่าของตลาดอาหารเสริมน้ำมันปลาทั่วโลกมีสูงถึง 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี

น้ํามันผ่านกรรมวิธี Refined Oil | คืออะไร? ดีหรือไม่ดี?

ประวัติ

ปี 1929 | George and Mildred Burr สามีภรรยานักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองจำกัดประเภทอาหารให้กับหนูทดลองด้วยการไม่ให้อาหารประเภทไขมันกับหนู ต่อมาพบว่าหนูที่ไม่ได้ไขมันเลยมีโรคที่เกี่ยวกับขาดสารอาหาร ซึ่งหนูเหล่านี้จะกลับมาแข็งแรงได้ด้วยการให้กรดไขมันไลโนเลอิก (Linoleic Fatty Acid) สุดท้ายเลยเป็นการค้นพบกรดไขมันที่จำเป็นที่ร่างกายต้องการขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก

ปี 1971 | Jorn Dyerberg และ Hans Olaf Bang นักวิทยาศาสตร์ชาวเดนมาร์กได้เข้าไปศึกษาชาวเอสกิโมในประเทศกรีนแลนด์ โดยตั้งข้อสังเกตว่าทำไมพวกเค้าถึงมีสุขภาพดี มีอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบต่ำกว่าชาวอเมริกันถึง 1 ใน 10 ทั้งที่รับประทานแต่อาหารประเภทไขมันสูง เช่น ปลา แมวน้ำ และวาฬ พวกเขาเลยทำการเจาะเลือดชาวเอสกิโมกลับไปวิเคราะห์ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ปี ถึงจะอธิบายได้ว่าไขมัน EPA และ DHA เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกลับส่งผลทำให้การเกิดโรคหัวใจต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการบริโภค 2 ไขมันนี้ ชาวเอสกิโมบริโภคมากกว่า 13 กรัมต่อวัน ชาวอเมริกันบริโภคต่ำกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวัน

ปี 2004 | Bill Harris นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันได้ตีพิมพ์งานวิจัยในนิตยสาร Preventive Medicine ว่าไขมันโอเมก้าสาม (Omega-3) ที่พบมากในน้ำมันปลาเป็นดัชนีชี้วัดใหม่เพื่อใช้วัดโอกาสในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เกิดการศึกษาเรื่องน้ำมันปลากับการป้องกันและรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดต่อมา

น้ำมันสำหรับทอด | อะไรดีกับสุขภาพ อะไรไม่ดีกับสุขภาพ

ส่วนประกอบ

ในน้ำมันปลา 1 แคปซูล จะมีส่วนประกอบหลัก คือ

  • Cholesterol | คอเลสเตอรอล
  • Saturated Fat | ไขมันอิ่มตัว
  • Unsaturated Fat | ไขมันไม่อิ่มตัว
    • Omega-3 | โอเมก้าสาม
      • EPA | อีพีเอ
      • DHA | ดีเอชเอ
    • Omega-6 | โอเมก้าหก
    • Omega-9 | โอเมก้าเก้า
  • Vitamin | วิตามิน
    • Vitamin-A | วิตามินเอ
    • Vitamin-D | วิตามินดี
  • Antioxidant | สารต้านอนุมูลอิสระ

น้ำมันปลา VS น้ำมันตับปลา | เหมือนกันยังไง? ต่างกันยังไง? อันไหนดีกว่า?

น้ำมันปลา Fish Oil | ช่วยอะไร? มีผลข้างเคียงอะไร?
Fish Oil | ช่วยอะไร? มีผลข้างเคียงอะไร?

ประโยชน์

  1. หัวใจและหลอดเลือด | ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง ช่วยทำให้หลอดเลือดยืดหยุ่น
  2. จิตใจและอารมณ์ | ช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวล อารมณ์นิ่งสงบ
  3. สมอง | ช่วยพัฒนาความจำ สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจ
  4. ภูมิต้านทาน | ช่วยลดการอักเสบ ช่วยบำรุงระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง
  5. รูปร่าง | ช่วยทำให้ระบบเผาผลาญทำงานสมบูรณ์ ควบคุมน้ำหนักให้สมส่วน
  6. ดวงตา | ช่วยทำให้การมองเห็นชัดเจน ปกป้องดวงตาจากความเสื่อม
  7. ผิวหนัง | ช่วยทำให้ผิวพรรณเรียบเนียน นุ่ม ลื่น
  8. เส้นผม | ช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ทำให้เส้นผมเงางาม หนังศรีษะไม่แห้ง
  9. โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง | ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย ลดโอกาสเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ

น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี | วิธีเลือกซื้อและวิธีกิน

ผลข้างเคียง

  1. กลิ่นเหม็นคาว ลมหายใจมีกลิ่นทะเล
  2. เลือดหยุดไหลช้าถ้าเป็นแผล
  3. คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
  4. เพิ่มความเสี่ยงเลือดออกในสมองและโรคหลอดเลือดสมอง (ถ้ารับประทานมากเกินไป)
  5. เพิ่มความเสี่ยงได้รับสารปรอทและ PCBs (ถ้ายี่ห้อนั้นมีสารพิษโลหะหนักปนเปื้อน)

น้ำมันปลา กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่

วิธีเก็บรักษา

ความร้อน อากาศ ความชื้น” เป็นตัวแปรที่ทำให้ทุกอย่างเสื่อมสภาพเร็ว รวมถึงน้ำมันปลาด้วย

  • ถ้าเปิดรับประทานแล้ว ปิดฝาให้สนิท อย่าให้อากาศเข้าไป
  • ถ้าเปิดรับประทานแล้ว เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา
  • ถ้ายังไม่เปิดรับประทาน เก็บในช่องฟรีซ

Astaxanthin | สารต้านอนุมูลอิสระที่แรงกว่า วิตามินซี 6,000 เท่า

อาหารเสริมน้ำมันปลาเกรดการแพทย์

น้ำมันปลา Fish Oil | ช่วยอะไร? มีผลข้างเคียงอะไร?
Bio Active Lipids

Bio Active Lipids | อาหารเสริมน้ำมันปลาเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้

  1. Concentrated fish-omega3 triglycerides = 1000mg
  2. equiv. Eicosapentaenoic acid (EPA) = 360mg
  3. equiv. Docosahexaenoic acid (DHA) = 240mg
Wellness Hub – Good Gut

Good Gut คือ อาหารเสริมใยอาหารประเภทละลายน้ำ (Water Soluble Dietary Fiber) ชนิดพาร์เชียลลี ไฮโดรไลซ์ กัวร์กัม (PHGG : Partially Hydrolyzed Guar Gum) ที่สกัดมาจากเมล็ดกัวร์ (Guar Bean) ประเทศญี่ปุ่น ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านนี้มายาวนานกว่า 35 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่ามาจากธรรมชาติ ปราศจากพืชดัดแปลงพันธุกรรม การสังเคราะห์ และปลอดภัยจากสารพิษต่างๆ

ได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและด้านอาหาร ดังนี้

  • FDA | องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
  • Low – FODMAP | อาหารย่อยง่าย ไม่ท้องอืด ไม่ท้องผูก ไม่ท้องเฟ้อ ไม่ท้องเสีย ไม่ปวดท้อง
  • GMO Free | ไม่มีพืชดัดแปลงพันธุกรรม
  • Allergen Free | ไม่ทำให้เกิดการแพ้
  • VEGAN | มาตรฐานอาหารเจ – มังสวิรัติ – วีแกน
  • HALAL | มาตรฐานอาหารอิสลาม
  • KOSHER | มาตรฐานอาหารยิว

มีงานวิจัยเฉพาะของ PHGG (Partially Hydrolyzed Guar Gum) ทั้งในหลอดทดลอง ในสิ่งมีชีวิต และในมนุษย์ ว่ามีคุณประโยชน์ต่างๆ ดังนี้

  1. มีส่วนช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
  2. มีส่วนช่วยทำให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรง
  3. มีส่วนช่วยป้องกันโรคอ้วน
  4. มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องผูก
  5. มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องเสีย
  6. มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้แปรปรวน (IBS: Irritable Bowel Sysdrome)
  7. มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD: Inflammatory Bowel Disease)
  8. มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
  9. มีส่วนช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
  10. มีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ
  11. มีส่วนช่วยเพิ่มกรดไขมันสายสั้น (SCFAs: Short-Chain Fatty Acids) ในลำไส้
  12. มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด
  13. มีส่วนช่วยลดค่าดัชนีน้ำตาล (GI: Glycemic Index)
  14. มีส่วนช่วยลดความโหยหลังจากมื้ออาหาร
  15. มีส่วนช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
  16. มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C: Hemoglobin A1C)

ละลายน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดื่มวันละ 1 ซอง

Similar Posts