เวชศาสตร์ชะลอวัย | 3 เรื่องที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด
เวชศาสตร์ชะลอวัย หรือ Anti-Aging ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะว่าหลายๆ คนอยากจะดูดีดูอ่อนกว่าวัย อยากจะชะลอความเสื่อมชรา ชะลอความแก่ชรา ออกไปให้นานที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ แต่เชื่อไหมครับว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging and Regenerative Medicine) อยู่ดี
วันนี้ผมมี 3 เรื่องที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการชะลอวัยมาเล่าให้ฟังครับ
1 | กินอะไรถึงแก่ช้า ?
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าการชะลอความเสื่อมชราคือแค่ต้องกินอะไรบางอย่างเข้าไป เลยทำให้มีประโยคที่มักจะถามกันว่ากินอะไรถึงแก่ช้า กินอะไรถึงไม่แก่ กินอะไรถึงจะเป็นหนุ่มสาวนานๆ ภาพความคิดในหัวของคนส่วนใหญ่คล้ายกับจิ๋นซีฮ่องเต้ ที่มีความเชื่อว่าในโลกนี้มีสารอะไรบางอย่างที่พิเศษสุดๆ หายากมากๆ เป็นความลับที่อยู่ภายในโลกของเวชศาสตร์ชะลอวัยที่เมื่อกินไปแล้วจะแก่ช้าทันที
ความเป็นจริงคือมันไม่ได้มีสารวิเศษอันนั้นหรอกครับ มันมีแต่การดูแลตัวเองแบบองค์รวมถึงจะช่วยทำให้ชะลอวัยได้ แต่ก็มีบางส่วนที่ถูกอยู่บ้าง มันมีบางอย่างที่เราควรจะต้องกินให้มากขึ้น แต่มันก็มีบางอย่างที่เราควรจะต้องกินให้น้อยลง พื้นฐานอย่างแรกเลยคือเรื่องอาหารหลัก 7 หมู่ อย่าเพิ่งไปนึกถึงอะไรที่มันซับซ้อนให้นึกถึงสิ่งพื้นฐานก่อน เหมือนสร้างบ้านชั้น 1 ให้เสร็จก่อนค่อยสร้างชั้น 2-3
คาร์โบไฮเดรต
👆ผัก
👇น้ำตาล ข้าวขาว แป้ง ขนมปัง
โปรตีน
👆เต้าหู้ ธัญพืช เห็ด ถั่ว
👇เนื้อสัตว์
ไขมัน
👆น้ำมันปลา น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์
👇น้ำมันพืช น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน
วิตามิน-เกลือแร่
👆ผัก ผลไม้
น้ำ
👆ดื่มตลอดทั้งวัน ยกเว้นก่อนนอน
โพรไบโอติค
👆คอมบูชา คีเฟอร์ มิโซะ โยเกิร์ต เมทเป้ กิมจิ
2 | เวชศาสตร์ชะลอวัย = ความสวยความงาม
คนส่วนใหญ่พอพูดถึงการชะลอวัย มักจะนึกถึงเรื่องสกิน-เรื่องผิวหน้า-เรื่องความงาม มาเป็นหลักก่อนเลย จริงๆ แล้วมันไม่ใช่นะครับ การแก่ชราของร่างกาย (Aging Process) นั้นมันเริ่มต้นมาจากภายในก่อนแล้วค่อยๆ แสดงออกมาให้เห็นภายนอก สิ่งที่เรามองเห็นภายนอกว่าแก่ชราคือการสะสมความแก่ชราที่มาจากภายใน
90% คือ ภายใน อีก 10% คือ ภายนอก
แต่คนส่วนใหญ่ไปโฟกัสแค่ภายนอกที่เราเห็นกันด้วยตาเท่านั้น ลองนึกภาพดูนะครับ ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ในสมัยที่เวชศาสตร์ความงามยังไม่พัฒนามาไกลขนาดนี้ คนสมัยก่อนที่ดูดีคือเค้าดูดีจริงๆ ดูดีมาจากการดูแลตัวเองจากภายในจริงๆ จนกระทั่งแสดงออกมาภายนอกให้เราเห็น
ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้บอกว่าเวชศาสตร์ความงามไม่ดีนะครับ แต่อยากให้ทุกคนเปลี่ยนมุมมองใหม่ ถ้าคุณให้ความสำคัญกับผิวหน้าคุณเท่ากับมือข้างซ้าย มือข้างขวาของคุณก็คือการดูแลตัวเองจากภายใน คือความสำคัญของทั้ง 2 อย่างต้องเท่าๆ กัน ไม่ยังงั้นหน้าคุณจะเป็นเหมือนลิซ่าแต่ร่างกายคุณเป็นเหมือนป้าคนนึงเท่านั้น
ถ้าหน้าคุณสวยมากเลย ทำมาอย่างดี แต่ร่างกายคุณเละเทะเสื่อมโทรม เบาหวาน-ไขมัน-ความดัน มาครบ หัวเข่าก็ไม่ค่อยดี สมองก็มึนๆ งงๆ ฮอร์โมนก็เพี้ยน กล้ามเนื้อก็น้อย กินยาทั้งวัน แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับที่หน้าคุณสวยแต่ร่างคุณโทรม
3 | เวชศาสตร์ชะลอวัย รักษาโรคอะไร
คนส่วนใหญ่พอนึกถึงศูนย์ Anti-Aging นึกถึง Wellness Center นึกถึงการกินอาหารเสริม ก็มักจะถามว่าเอาไว้แก้อะไรอ่ะ เอาไว้รักษาโรคอะไร แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้น มันไม่ใช่แค่ไม่เหมือนกับที่คนส่วนใหญ่คิดนะครับแต่มันตรงกันข้ามกันเลย คนส่วนใหญ่มักรอให้เกิดปัญหาขึ้นมาก่อนค่อยหาทางแก้ คนส่วนใหญ่รอให้เกิดโรคขึ้นมาก่อนค่อยหาทางรักษา คนส่วนใหญ่รอให้รถเสียก่อนค่อยหาทางซ่อม
แต่การชะลอวัยทำตรงกันข้ามเลยครับ เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ คือ การจะทำยังไงให้คุณมีสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด (Optimal Health) มันเลยกลายเป็นการป้องกันไปโดยปริยาย เปรียบเทียบเหมือนถ้าเป้าหมายการเดินทางคุณคือจุดสูงสุดแดนสยาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังไงคุณก็ต้องผ่านอยุธยา ยังไงคุณก็ต้องผ่านนครสวรรค์ ยังไงคุณก็ต้องผ่านแพร่ คุณไม่ต้องมาคอยแก้ปัญหาทีละจุดๆ ลองมองไปไกลๆ เลย มองไปที่จุดสูงสุด แล้วปัญหาที่คนส่วนใหญ่เจอคุณจะได้ไม่ต้องมาเจอ
- ถ้าคุณสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด คุณก็ไม่ต้องมากูเกิลหาวิธีลดความอ้วน เพราะหุ่นดีคือทางผ่าน
- ถ้าคุณสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด คุณก็ไม่ต้องมากูเกิลหาวิธีลดความเหี่ยว แก่ เพราะการดูดีคือทางผ่าน
- ถ้าคุณสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด คุณก็ไม่ต้องมากูเกิลหาวิธีรักษาเบาหวาน ความดัน มะเร็ง เพราะสุขภาพดีคือทางผ่าน
เหมือนคอมโบเซต ซื้อชุดเดียวได้ทั้งหมดครับ
สรุป
คำว่า ชะลอวัย / เวชศาสตร์ชะลอวัย / แอนไทเอจจิ้ง / แอนตี้เอจจิ้ง / Anti-Aging and Regenerative Medicine / Wellness ทั้งหมดนี้ความหมายเดียวกันคือ องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ระดับเซลล์ที่จะช่วยทำให้คุณมีสุขภาพสมบูรณ์สูงสุด เริ่มมาจากภายในและผสานกันกับภายนอก โดยที่เน้นการป้องกันเป็นหลัก-การรักษาเป็นรอง
หนังสือที่จะทำให้คุณเข้าใจเซลล์ของคุณ
ในหนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ร่างกายของตัวเองว่าทำงานยังไง อะไรบ้างที่ทำให้แก่เร็ว อะไรบ้างที่ทำให้แก่ช้า และสุดท้ายจะทำยังไงให้ชะลอความแก่ชราออกไปให้นานที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ ผ่านจากเรียนรู้ทั้งหมด 7 บท คือ
- เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging and Regenerative Medicine)
- ทฤษฎีความชราในอดีต (Aging Theory in The Past)
- ทฤษฎีความชราในปัจจุบัน (Aging Theory in The Present)
- ปัจจัยที่เหนือกว่าพันธุกรรม (Epigenetic)
- ปัจจัยที่เร่งการแก่ชรา (Aging Force)
- ปัจจัยที่ยับยั้งการแก่ชรา (Anti-Aging Force)
- ใช้ชีวิตยังไงให้ชะลอวัย (How to Anti-Aging)
หนังสือที่จะทำให้คุณเข้าใจฮอร์โมนของคุณ
ในหนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกายของตัวเอง ว่าทำงานยังไง อะไรบ้างที่ทำให้ฮอร์โมนมากเกินไป อะไรบ้างที่ทำให้ฮอร์โมนน้อยเกินไปและจะทำยังไงให้ฮอร์โมนทำงานสมบูรณ์ ผ่านจากเรียนรู้ทั้งหมด 20 บท คือ
- ความรู้พื้นฐานของระบบฮอร์โมน (Basic Concept of Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการต้านแก่ (Growth Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการนอนหลับ (Melatonin Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการเผาผลาญพลังงานขั้นพื้นฐาน (Thyroid Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการอยู่รอด (Cortisol Hormone)
- แม่ของทุกฮอร์โมนประเภทไขมัน (Pregnenolone Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการควบคุมความดัน (Aldosterone Hormone)
- ฮอร์โมนเพศชายอย่างแรก (DHEA Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งความตกใจ โมโห หดหู่ (Catecholamines Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตไปข้างหน้า (Insulin Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการลดความอ้วน (Glucagon Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งความสุข (Dopamine-Endorphin-Oxytocin-Serotonin Hormone)
- ฮอร์โมนแห่งการอักเสบ (Prostaglandins Hormone)
- กลุ่มฮอร์โมนแห่งความเป็นเพศชาย (Androgen Group Hormone)
- กลุ่มฮอร์โมนแห่งความเป็นเพศหญิง (Estrogen Group Hormone)
- กลุ่มฮอร์โมนแห่งความแข็งแรงของกระดูก (Parathyroid-Calcitonin Hormone)
- ฮอร์โมนที่เกิดจากไขมันสะสม (Fat Hormone)
- ฮอร์โมนทุกอย่างทำงานร่วมกัน (Hormone Symphony)
- อาการที่ทำให้รู้ว่าฮอร์โมนเพี้ยน (Health Effect to Hormone Dysfunction)
- ทำยังไงให้ฮอร์โมนทำงานสมบูรณ์ (Lifestyle for Optimal Hormone)