วิตามิน บี – Vitamin B | กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่
วิตามิน บี กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่ | อาหารเสริม วิตามิน บี หรือ Vitamin B ควรรับประทานตอนไหนถึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด ควรรับประทานวันละเท่าไหร่เพื่อไม่ให้เกินและไม่ให้ขาด
วิตามิน บี – Vitamin B | ประโยชน์? อาการเมื่อขาด? อาการเมื่อเกิน?
วิตามิน บี – Vitamin B | กินตอนไหน
สามารถรับประทานอาหารเสริม Vitamin B ตอนไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเย็น แต่ถ้าดีที่สุดควรเป็นตอนเช้าของวัน เพราะเป็นสารร่วมที่จำเป็นในกระบวนการสร้างพลังงานและเผาผลาญสารอาหารตลอดทั้งวัน สามารถรับประทานต่อเนื่องได้ทุกวัน (ถ้ายี่ห้อนั้นไม่มีสารพิษโลหะหนัก สารปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม) รับประทานได้ทั้งพร้อมอาหารหรือตอนท้องว่างเพราะวิตามินบีละลายในน้ำ
วิตามิน บี – Vitamin B ยี่ห้อไหนดี | วิธีเลือกซื้อ? วิธีกิน? วิธีเก็บ?
วิตามิน บี – Vitamin B | กินวันละเท่าไหร่
สถาบันสุขภาพแห่งชาติ หรือ NIH (National Institutes of Health) แนะนำปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
ผู้หญิง
- Vitamin B1 | 1.1 มิลลิกรัม
- Vitamin B2 | 1.1 มิลลิกรัม
- Vitamin B3 | 14 มิลลิกรัม
- Vitamin B5 | 5 มิลลิกรัม
- Vitamin B6 | 1.3 มิลลิกรัม
- Vitamin B7 | 30 ไมโครกรัม
- Vitamin B9 | 400 ไมโครกรัม
- Vitamin B12 | 2.4 ไมโครกรัม
ผู้ชาย
- Vitamin B1 | 1.2 มิลลิกรัม
- Vitamin B2 | 1.3 มิลลิกรัม
- Vitamin B3 | 16 มิลลิกรัม
- Vitamin B5 | 5 มิลลิกรัม
- Vitamin B6 | 1.3 มิลลิกรัม
- Vitamin B7 | 30 ไมโครกรัม
- Vitamin B9 | 400 ไมโครกรัม
- Vitamin B12 | 2.4 ไมโครกรัม
วิตามิน บี – Vitamin B | พบในอาหารอะไร? ร่างกายต้องการวันละเท่าไหร่?
วิตามินบีแบบที่ออกฤทธิ์ทันที
Vitamin B Complex | อาหารเสริมวิตามินบีรวมเกรดการแพทย์ มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Benfotiamine (Vitamin B1) = 50mg
- Riboflavin (Vitamin B2) = 50mg
- Niacinamide (Vitamin B3) = 45mg
- Calcium-D-Pantothenate (Vitamin B5) = 50mg
- Pyridoxamine (Vitamin B6) = 50mg
- Biotin (Vitamin B7) = 0.5mg
- 5-MTHF = 0.5mg
- Methylcobalamin (Vitamin B12) = 0.5mg
- NADH = 5mg
Good Gut คือ อาหารเสริมใยอาหารประเภทละลายน้ำ (Water Soluble Dietary Fiber) ชนิดพาร์เชียลลี ไฮโดรไลซ์ กัวร์กัม (PHGG : Partially Hydrolyze Guar Gum) ที่สกัดมาจากเมล็ดกัวร์ (Guar Bean) ประเทศญี่ปุ่น ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านนี้มายาวนานกว่า 35 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่ามาจากธรรมชาติ ปราศจากพืชดัดแปลงพันธุกรรม การสังเคราะห์ และปลอดภัยจากสารพิษต่างๆ
ได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและด้านอาหาร ดังนี้
- FDA | องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
- Low – FODMAP | อาหารย่อยง่าย ไม่ท้องอืด ไม่ท้องผูก ไม่ท้องเฟ้อ ไม่ท้องเสีย ไม่ปวดท้อง
- GMO Free | ไม่มีพืชดัดแปลงพันธุกรรม
- Allergen Free | ไม่ทำให้เกิดการแพ้
- VEGAN | มาตรฐานอาหารเจ – มังสวิรัติ – วีแกน
- HALAL | มาตรฐานอาหารอิสลาม
- KOSHER | มาตรฐานอาหารยิว
มีงานวิจัยเฉพาะของ PHGG ทั้งในหลอดทดลอง ในสิ่งมีชีวิต และในมนุษย์ ว่ามีคุณประโยชน์ต่างๆ ดังนี้
- มีส่วนช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
- มีส่วนช่วยทำให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรง
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคอ้วน
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องผูก
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องเสีย
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้แปรปรวน (IBS: Irritable Bowel Sysdrome)
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD: Inflammatory Bowel Disease)
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
- มีส่วนช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
- มีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ
- มีส่วนช่วยเพิ่มกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) ในลำไส้
- มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด
- มีส่วนช่วยลดค่าดัชนีน้ำตาล (GI: Glycemic Index)
- มีส่วนช่วยลดความโหยหลังจากมื้ออาหาร
- มีส่วนช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
- มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C: Hemoglobin A1C)
ละลายน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดื่มวันละ 1 ซอง