Prebiotic – พรีไบโอติก | กินตอนไหน กินวันละเท่าไหร่
พรีไบโอติก กินตอนไหน | อาหารเสริมพรีไบโอติก (Prebiotic) ควรกินตอนไหน? ควรกินวันละเท่าไหร่?
พรีไบโอติก Prebiotic | คืออะไร? มีประโยชน์อะไร? มีผลข้างเคียงอะไร?
พรีไบโอติก กินตอนไหน
เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากพรีไบโอติกมากที่สุด คุณสามารถเลือกเวลาในการรับประทานได้ ดังนี้
- กินก่อนนอน 2 ชั่วโมง | ช่วยทำให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น เพราะสมองและลำไส้เชื่อมโยงกัน
- กินก่อนอาหาร 30 นาที | ช่วยทำให้ลดความเร็วในการดูดซึมน้ำตาลในมื้ออาหาร (Glycemic Index) และอิ่มนานขึ้น
- กินตอนไหนก็ได้ที่ท้องว่าง | ถ้าไม่สะดวกเวลาไหนเลย ก็กินตอนที่ท้องว่างเพราะคุณต้องดื่มน้ำเปล่าในปริมาณมาก
พรีไบโอติกต้องการน้ำเปล่าในการออกฤทธิ์ ถ้าไม่ดื่มน้ำหรือดื่มน้ำน้อย ก็ไม่เห็นผล
หลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อมกับยารักษาโรคเพราะจะทำให้การดูดซึมตัวยาลดลง ให้รับประทานก่อนหรือหลังรับประทานยารักษาโรค 2 ชั่วโมง หรือถ้าไม่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เช่น โรคลำไส้แปรปรวน (IBS) โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD) หรือภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้เล็กเจริญเติบโตมากผิดปกติ (SIBO) ควรรับประทานก่อนนอน 2 ชั่วโมง
พรีไบโอติก ยี่ห้อไหนดีที่สุด | วิธีเลือกซื้อ วิธีกิน วิธีเก็บ
พรีไบโอติก กินวันละเท่าไหร่
จะรับประทานอาหารเสริมพรีไบโอติกให้เห็นผลก็ต้องกินในปริมาณที่ออกฤทธิ์ ซึ่งแต่ละยี่ห้อใส่พรีไบโอติกแต่ละชนิดมาไม่เท่ากัน ต้องพลิกดูฉลากว่ายี่ห้อนั้นใส่พรีไบโอติกชนิดไหนมาและปริมาณเท่าไหร่
- Pectin | 5-20 กรัม/วัน
- Inulin | 5-10 กรัม/วัน
- FOS | 2-10 กรัม/วัน
- XOS | 1.4-2.8 กรัม/วัน
- GOS | 5-20 กรัม/วัน
- AXOS | 10-20 กรัม/วัน
- Psyllium Husk | 5-10 กรัม/วัน
- Beta Glucan | 100-500 มิลลิกรัม/วัน
- Guar Gum | 5-20 กรัม/วัน
- PHGG | 5-10 กรัม/วัน
- Fibersol | 3-8 กรัม/วัน
ไฟเบอร์ FIBER VS พรีไบโอติก PREBIOTIC
อาหารเสริม Prebiotic เกรดการแพทย์
Good Gut คือ อาหารเสริมใยอาหารประเภทละลายน้ำ (Water Soluble Dietary Fiber) ชนิดพาร์เชียลลี ไฮโดรไลซ์ กัวร์กัม (PHGG : Partially Hydrolyzed Guar Gum) ที่สกัดมาจากเมล็ดกัวร์ (Guar Bean) ประเทศญี่ปุ่น ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านนี้มายาวนานกว่า 35 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่ามาจากธรรมชาติ ปราศจากพืชดัดแปลงพันธุกรรม การสังเคราะห์ และปลอดภัยจากสารพิษต่างๆ
ได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและด้านอาหาร ดังนี้
- FDA | องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
- Low – FODMAP | อาหารย่อยง่าย ไม่ท้องอืด ไม่ท้องผูก ไม่ท้องเฟ้อ ไม่ท้องเสีย ไม่ปวดท้อง
- GMO Free | ไม่มีพืชดัดแปลงพันธุกรรม
- Allergen Free | ไม่ทำให้เกิดการแพ้
- VEGAN | มาตรฐานอาหารเจ – มังสวิรัติ – วีแกน
- HALAL | มาตรฐานอาหารอิสลาม
- KOSHER | มาตรฐานอาหารยิว
มีงานวิจัยเฉพาะของ PHGG (Partially Hydrolyzed Guar Gum) ทั้งในหลอดทดลอง ในสิ่งมีชีวิต และในมนุษย์ ว่ามีคุณประโยชน์ต่างๆ ดังนี้
- มีส่วนช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ
- มีส่วนช่วยทำให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรง
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคอ้วน
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องผูก
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคท้องเสีย
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้แปรปรวน (IBS: Irritable Bowel Sysdrome)
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (IBD: Inflammatory Bowel Disease)
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้
- มีส่วนช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
- มีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ
- มีส่วนช่วยเพิ่มกรดไขมันสายสั้น (SCFAs: Short-Chain Fatty Acids) ในลำไส้
- มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด
- มีส่วนช่วยลดค่าดัชนีน้ำตาล (GI: Glycemic Index)
- มีส่วนช่วยลดความโหยหลังจากมื้ออาหาร
- มีส่วนช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
- มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C: Hemoglobin A1C)
ละลายน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดื่มวันละ 1 ซอง
Beta Glucan (เบต้า กลูแคน) คือ กากใยอาหาร (Dietary Fiber) ชนิดละลายน้ำ ซึ่งพบมากในเมล็ดธัญพืช ยีสต์ และเห็ด
ประโยชน์ต่างๆ มีดังนี้
- มีส่วนช่วยทำให้อาการแพ้ดีขึ้น
- มีส่วนช่วยทำให้โรคหอบหืดดีขึ้น
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคลำไส้อักเสบ
- มีส่วนช่วยทำให้อาการเหนื่อยล้าเรื้อรังดีขึ้น
- มีส่วนช่วยทำให้อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังดีขึ้น
- มีส่วนช่วยทำให้โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ดีขึ้น
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
- มีส่วนช่วยทำให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรง